การจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม
บริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดการสิ่งแวดล้อมโดยใช้แนวทางการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อควบคุมการใช้ทรัพยากรต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อป้องกันผลกระทบและผลเสียที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่นำมาใช้ รวมถึงมีระบบการติดตามคุณภาพ มลภาวะหรือของเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต นอกเหนือไปจากนั้นยังมีเป้าหมายในการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับหรือกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมให้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์และมีคุณภาพที่ดีกว่าที่มาตรฐานกำหนด
บริษัทฯ ตระหนักดีว่า กระบวนการดำเนินกิจกรรมการผลิตไฟฟ้าซึ่งเป็นธุรกิจหลักสำคัญ จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติเป็นจำนวนมากและยังมีโอกาสและความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบพื้นที่โครงการ บริษัทฯ จึงจัดให้มีการกำกับดูแลระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อลดโอกาสและความเสี่ยงของผลกระทบให้เหลือน้อยที่สุด
สำหรับการกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ได้ประยุกต์ใช้ข้อกำหนดของกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ รวมถึงมาตรฐานสากลด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม มาใช้วางกรอบปฏิบัติในจรรยาบรรณบริษัทฯ นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม และนโยบายการพัฒนาความยั่งยืนองค์กร ซึ่งหลักปฏิบัติทั้งหมดเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดไปยังกิจการต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทฯ เพื่อใช้เป็นแนวทางดำเนินงานและกำหนดเป้าหมายขององค์กรให้สอดคล้องกับบริษัทฯ ต่อไป
โครงสร้างการกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อม
การดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ
การจัดการก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อม
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (tCO2e) จากการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (CFO) | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
โรงไฟฟ้า | ทางตรง (ขอบเขตที่ 1)
|
ทางอ้อม (ขอบเขตที่ 2)
|
ทางอ้อมอื่น ๆ (ขอบเขตที่ 3)
|
|||||||||
ปี | (ปีฐาน) | 2563 | 2564 | 2565* | (ปีฐาน) | 2563 | 2564 | 2565* | 2563 | 2564 | 2565* | |
ราชบุรี | 7,128,375 (2558) |
4,997,704 | 4,950,948 | 6,302,398 | 27,702 (2558) |
18,837 | 28,131 | 22,270 | - | 2,413,616 | 2,729,674 | |
ราชโคเจนฯ | - | 313,927 | 300,854 | 307,544 | - | 25 | 1,069 | 149 | 91,804 | 88,628 | 89,527 | |
นวนคร | - | - | 515,185 | 485,947 | - | - | 50 | 31 | - | 159,912 | 153,777 | |
สหโคเจน (ชลบุรี) | - | - | - | 525,399 | - | - | - | 16 | - | - | 139,785 | |
อาคาร ราช กรุ๊ป | 73 (2561) |
664 | 43 | 58 | 1,110 (2561) |
888 | 813 | 846 | - | 36 | 46 |
หมายเหตุ: * ข้อมูลอยู่ระหว่างการทวนสอบ
การใช้เชื้อเพลิงและพลังงาน
โรงไฟฟ้าที่อยู่ในอำนาจควบคุมการบริหารของบริษัทฯ จำนวน 6 แห่ง มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งหมด 4,089 เมกะวัตต์ คิดตามสัดส่วนรายได้คิดเป็นร้อยละ 83.81 ของรายได้รวมในปี 2565 โรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก ยกเว้นโรงไฟฟ้าราชบุรี ที่มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 3,645 เมกะวัตต์ (สัดส่วนรายได้คิดเป็นร้อยละ 72.25 ของรายได้รวมในปี 2565) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าหลักของบริษัทฯ ถูกออกแบบให้สามารถใช้เชื้อเพลิงได้ 2 ประเภท คือ ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก และน้ำมันเตาหรือน้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงสำรอง ซึ่งจะใช้ในกรณีที่แหล่งก๊าซธรรมชาติจากพม่าหยุดซ่อมบำรุงและเหตุจำเป็นอื่นๆ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ระบบไฟฟ้าของประเทศมีความมั่นคง
อย่างไรก็ดี การใช้เชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้าราชบุรี จะเป็นไปตามคำสั่งของศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าแห่งชาติ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งในปี 2565 ได้สั่งการให้โรงไฟฟ้าพลังความร้อนราชบุรีเครื่องที่ 1 และ 2 ที่มีกำลังการผลิตเครื่องละ 735 เมกะวัตต์เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าด้วยน้ำมันเตา
ตัวชี้วัด | หน่วย | ปี 2565 | ปี 2564 | ปี 2563 |
---|---|---|---|---|
ปริมาณก๊าซธรรมชาติ | ล้าน ลบ.ฟุต | 149,202 | 121,482 | 129,310 |
ปริมาณน้ำมันเตา | ลิตร | 290,691,483 | 161,121,423 | 0 |
ปริมาณน้ำมันดีเซล | ลิตร | 21,881,178 | 9,244,423 | 2,020,571 |
ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้สุทธิ | เมกะวัตต์-ชั่วโมง | 18,488,776 | 14,625,418 | 14,933,403 |
ปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่มาจากพลังงานทดแทน | เมกะวัตต์-ชั่วโมง | 13,860 | 2,858 | 0 |
- ปี (2565) รายงานผลรวมของโรงไฟฟ้าราชบุรี โรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น โรงผลิตไฟฟ้านวนคร โรงไฟฟ้าราช โคเจนเนอเรชั่น โรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ระยองและโรงไฟฟ้า สหโคเจน (ชลบุรี)
- ปี 2563 และ 2564 ไม่รวมโรงไฟฟ้าสหโคเจน (ชลบุรี) และโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง
การพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงและพลังงาน
ในปี 2565 ผลการดำเนินงานเพื่อควบคุมประสิทธิภาพการผลิตของทุกโรงไฟฟ้าที่บริษัทฯ มีอำนาจในการควบคุมพบว่า ประสิทธิภาพการผลิตของโรงไฟฟ้า มีค่าเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 47.65 ซื่งเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
โดยโรงไฟฟ้าภายใต้การบริหารของบริษัทฯ ได้คิดค้นการปรับเทคนิควิธีการเดินเครื่องหรือปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆของโรงไฟฟ้า เพื่อมุ่งหวังที่จะลดการใช้เชื้อเพลิงและพลังงาน และยังก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมด้านเศรษฐกิจจากการลดต้นทุนการผลิต รวมถึงตอบสนองเป้าหมายของการบริโภคที่ยั่งยืน
การบริหารจัดการน้ำ
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการจัดการการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งวางแผนการใช้น้ำในกระบวนการผลิตด้วยหลักการลดการใช้น้ำ เพิ่มการใช้ซ้ำ และนำกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้น้ำที่จะนำมาซึ่งของเสีย ตามหลักการ 3Rs เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการใช้ทรัพยากรน้ำให้คุ้มค่า ลดการสูญเสีย ช่วยให้การใช้น้ำดิบลดลง ขณะเดียวกันยังเป็นการลดปริมาณน้ำทิ้งที่ถูกปล่อยออกจากโรงไฟฟ้าอีกด้วย
ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับน้ำ
โรงไฟฟ้าที่บริษัทฯ ควบคุมการบริหารในประเทศไทยมีการใช้น้ำดิบสำหรับกระบวนการผลิตพลังงานไฟฟ้าจาก 3 แหล่งที่สำคัญ คือ ลุ่มแม่น้ำแม่กลอง ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และลุ่มแม่น้ำบางปะกง ซึ่งบริษัทฯ และโรงไฟฟ้ากลุ่มของบริษัทฯ ได้ติดตามและเฝ้าระวังสัดส่วนการระบายน้ำในลุ่มน้ำ และสัดส่วนการสูบน้ำดิบมาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อประเมินความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำและการแย่งชิงน้ำกับชุมชน รวมทั้งประเมินความตึงเครียดของน้ำ โดยใช้ข้อมูลของสถาบันทรัพยาการโลก (World Resources Institute: Aqueduct Water Risk Atlas and the Water Risk Filter) ผลการวิเคราะห์พบว่า ระดับความตึงเครียดของน้ำในลุ่มน้ำแม่กลองจะมีค่าในระดับต่ำ ส่วนลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำบางปะกงความตึงเครียดอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตราการจัดการความเสี่ยงการขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะสำหรับโรงผลิตไฟฟ้านวนคร และโรงไฟฟ้าราช โคเจนเนอเรชั่น ที่ใช้น้ำประปาจากแหล่งน้ำดิบในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และโรงไฟฟ้าสหโคเจน (ชลบุรี) และโรงไฟฟ้า เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง ที่ใช้น้ำประปาจากแหล่งน้ำดิบในลุ่มน้ำบางปะกง ผ่านสัญญาซื้อขายน้ำประปาระยะยาว และได้บริหารจัดการความเสี่ยงด้วยการกำหนดให้ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำประปาต้องจัดหาแหล่งน้ำสำรอง และแหล่งน้ำฉุกเฉินสำหรับรองรับกรณีที่เกิดภัยแล้งหรือขาดแคลนน้ำในแหล่งน้ำหลัก เพื่อให้โรงไฟฟ้ามีปริมาณน้ำดิบเพียงพอสำหรับใช้ในกระบวนการผลิต
การใช้น้ำในการผลิตไฟฟ้า ปี 2565
โรงไฟฟ้า | แหล่งน้ำ | ปริมาณน้ำดิบ (ล้าน ลบ.ม.) | ปริมาณน้ำที่ใช้ต่อหน่วยการผลิต (ลบ.ม./เมกะวัตต์-ชั่วโมง) | น้ำทิ้งจากกระบวนการผลิต | ปริมาณการใช้น้ำสุทธิ (น้ำดิบ-น้ำทิ้ง) (ล้าน ลบ.ม.) | ||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ปริมาณ (ล้าน ลบ.ม.) | เทียบกับน้ำดิบที่ใช้ (%) | แหล่งรองรับ | |||||
ราชบุรี | แม่น้ำแม่กลอง | 16.67 | 1.13 | 1.60 | 9.59 | คลองบางป่า | 15.07 |
เบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น | แม่น้ำแม่กลอง | 0.89 | 1.49 | 0.27 | 29.98 | แม่น้ำแม่กลอง | 0.63 |
นวนครและส่วนขยาย | น้ำประปาที่ผลิตจาก แม่น้ำเจ้าพระยา |
1.78 | 1.55 | 0.12 | 6.71 | ระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางของนิคม | 1.66 |
ราช โคเจนเนอเรชั่น | น้ำประปาที่ผลิตจาก แม่น้ำเจ้าพระยา |
0.97 | 1.36 | 0.11 | 11.21 | ส่งให้องค์กรอื่นนำไปใช้ประโยชน์ | 0.86 |
เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง | น้ำประปาที่ผลิตมาจากแม่น้ำบางปะกง | 0.40 | 1.33 | 0.07 | 17.62 | คลองช้างตาย | 0.33 |
สหโคเจน (ชลบุรี) | น้ำประปาที่ผลิตมาจากแม่น้ำบางปะกง | 1.79 | 1.78 | 0.54 | 29.94 | สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ | 1.26 |
การเพิ่มรอบการใช้น้ำในระบบหล่อเย็น
โรงไฟฟ้าที่อยู่ในอำนาจบริหารของบริษัทฯ จำนวน 6 แห่งในประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการการใช้น้ำในกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยการพยายามศึกษาและหาวิธีการลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการใช้น้ำในระบบหอหล่อเย็น ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีการใช้น้ำในปริมาณสูง โดยการจัดการและควบคุมคุณภาพน้ำให้มีการหมุนเวียนน้ำหล่อเย็นที่ใช้ในระบบให้ได้จำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อลดปริมาณน้ำดิบที่เป็นวัตถุดิบขาเข้าระบบ พร้อมทั้งลดการเกิดน้ำเสียที่ออกจากระบบโดยไม่จำเป็น ผลการดำเนินงานในปี 2565 มีดังนี้
โครงการ | จังหวัด | เป้าหมายจำนวนรอบ การใช้น้ำ (รอบ) |
จำนวนรอบการใช้น้ำเฉลี่ย ปี 2565 |
---|---|---|---|
โรงไฟฟ้าพลังความร้อนราชบุรี | ราชบุรี | 4-6 | 2.6 |
โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมราชบุรี | 4-6 | 4.8 | |
โรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น | 5 | 3.7 | |
โรงผลิตไฟฟ้านวนคร | ปทุมธานี | 5 | 4.1 |
โรงไฟฟ้าราช โคเจนเนอเรชั่น | 6 | 7.3 | |
โรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง | ระยอง | 6 | 6.7 |
โรงไฟฟ้าสหโคเจน (ชลบุรี) | ชลบุรี | 5-13 (ชุดที่ 1) | 7.8 |
3-8 (ชุดที่ 2-3) | 4.1 |
การจัดการของเสีย
โรงไฟฟ้าทุกแห่งที่อยู่ในอำนาจการบริหารของบริษัทฯ ได้ทุ่มเทความพยายามในการบริหารและจัดการของเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตและกิจกรรมการดำเนินงานของที่โรงไฟฟ้า โดยที่โรงไฟฟ้าต่าง ๆ ได้เลือกนำหลักการ 3Rs มาใช้ในการจัดการของเสีย ซึ่งเน้นการใช้วัสดุให้เกิดประโยชน์สูงสุด การนำกลับมาใช้ซ้ำและลดการเกิดของเสีย และการซ่อมแซมของวัสดุที่ชำรุดมาใช้ประโยชน์ใหม่ เพิ่มการหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง และหลีกเลี่ยงวัสดุที่จะสร้างของเสีย ที่สำคัญโรงไฟฟ้ามีความมุ่งมั่นที่จะลดการกำจัดของเสียอันตรายด้วยวิธีการฝังกลบให้เป็นศูนย์ (Zero Hazardous Waste to Landfill) อีกด้วย
นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าที่อยู่ในประเทศไทย ยังได้ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ. 2548 เรื่อง การกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขอย่างครบถ้วน อีกทั้งยังมีการติดตามของเสียที่ผู้รับกำจัดนำออกไปดำเนินการ โดยใช้ระบบเอกสารกำกับการขนส่งของเสียอันตราย (Manifest System) เพื่อกำกับดูแลตลอดกระบวนการตั้งแต่การขนส่งจนกระทั่งของเสียนั้นส่งถึงโรงงานรับกำจัดหรือบำบัด รวมไปถึงการติดตามการรายงานที่ผู้รับกำจัดได้รายงานข้อมูลการกำจัดของเสียนั้นไปยังกรมโรงงานอุตสาหกรรมด้วย
ปริมาณของเสียและวิธีการกำจัด
ของเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากกิจกรรมการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทฯ สามารถจำแนกจาก 2 แหล่งที่มาคือของเสียที่มาจากกระบวนการผลิต และของเสียที่เกิดขึ้นจากสำนักงานภายในโรงไฟฟ้า ซึ่งของเสียทั้งหมดจะถูกจำแนกออกเป็น ของเสียอันตรายและของเสียไม่อันตราย เพื่อประสิทธิภาพในการจัดการและเป้าหมายในการลดการฝังกลบของเสียอันตรายให้เป็นศูนย์ตามที่มุ่งหวัง
ผลการดำเนินงานปี 2565
ของเสียทั้งอันตรายและไม่อันตรายที่ได้รับการจัดการด้วยวิธีการต่างๆ สามารถแยกสัดส่วนการนำกลับไปใช้ใหม่ (Recovery) เท่ากับร้อยละ 97.29 ในขณะที่การนำไปกำจัดด้วยวิธีการที่ใม่ใช่การฝังกลบเท่ากับร้อยละ 1.12
การจัดการ | วิธีการ | ปริมาณ (ตัน) | ปริมาณรวม (ตัน) | คิดเป็น ร้อยละ |
|
---|---|---|---|---|---|
ของเสียไม่อันตราย | ของเสียอันตราย | ||||
นำกลับไปใช้ใหม่ด้วย กระบวนการ (Recovery) ร้อยละ 97.29 | นำกลับไปใช้ใหม่ (Reuse) | 15.3 | 0 | 15.3 | 0.05 |
นำกลับไปรีไซเคิล (Recycle) | 6,435.7 | 20.6 | 6,456.3 | 21.07 | |
นำกลับไปใช้ใหม่ด้วยวิธีอื่น (Other Recovery) | 23,335.2 | 11.9 | 23,347.1 | 76.17 | |
นำไปกำจัด (Disposal) ร้อยละ 2.71 | เผาแล้วได้พลังงานกลับมาใช้ (Incineration with Energy Recovery) | 0 | 186.7 | 186.7 | 0.61 |
เผาทิ้งโดยไม่ได้พลังงานกลับมาใช้ (Incineration without Energy Recovery) | 1.3 | 10.7 | 12 | 0.04 | |
ฝังกลบ (Landfilling)/เก็บรวบรวม | 459.4 | 34.7 | 494.1 | 1.61 | |
กำจัดด้วยวิธีการอื่น (Other Disposal Operations) | 0.9 | 137.0 | 137.9 | 0.45 |
การจัดการยิปซัมของโรงไฟฟ้าราชบุรี
เนื่องจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนราชบุรี ได้รับคำสั่งจาก กฟผ. ให้เดินเครื่องด้วยน้ำเตามากขึ้นในปี 2565 ซึ่งต้องเดินเครื่องระบบดักจับก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ควบคู่ไปด้วย จึงทำให้มีปริมาณยิปซัมที่เป็นของเสียจากกระบวนการดักจับก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์จำนวน 5,057.5 ตัน โดยยิปซัมนี้ถือเป็นของเสียที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และมีสัดส่วนมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 16.5 เมื่อเทียบกับปริมาณของเสียที่นำกลับมาใช้ใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าจะนำยิปซัมไปเก็บไว้ในบ่อฝังกลบยิปซัม เพื่อรอนำกลับมาใช้ประโยชน์ต่อไป
โรงไฟฟ้าราชบุรี ได้ทยอยนำยิปซัมที่เก็บไว้ไปใช้เป็นวัตถุดิบเพื่อผสมสำหรับการทำแผ่นยิปซัม และมอบให้ชุมชนใช้ประโยชน์ โดยในปีที่ผ่านมาโรงไฟฟ้าได้นำยิปซัมไปใช้ประโยชน์รวม 5,057.5 ตัน และปริมาณยิปซัมสะสมที่นำไปใช้ประโยชน์ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบันมีจำนวน 45,758.5 ตัน สำหรับการผลิตแผ่นยิปซัม โรงไฟฟ้าราชบุรีได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก คือ บริษัท สยาม อุตสาหกรรมยิปซัม จำกัด และบริษัท คนอฟ ยิปซัม (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้มอบให้ชุมชนนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
การจัดการคุณภาพอากาศ
การดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนและความร้อนร่วมจำเป็นจะต้องมีการระบายอากาศเสียที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงชนิดต่างๆ ออกสู่ชั้นบรรยากาศ บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญและเข้มงวดในการควบคุมและจัดการมลสารสำคัญต่างๆ ได้แก่ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ออกไซด์ของไนโตรเจน และฝุ่นละอองให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานการระบายอากาศที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด
การตรวจวัดคุณภาพอากาศจากโรงไฟฟ้า
ในปี 2565 โรงไฟฟ้าที่บริษัทฯ มีอำนาจควบคุมทั้งสิ้นจำนวน 6 แห่งซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรายได้ร้อยละ 83.81 ของรายได้รวมได้ดำเนินการตรวจวัดความเข้มข้นของมลสารจากปล่องระบายซึ่งมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง สำหรับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนราชบุรี เครื่องที่ 1 และ 2 ในปีนี้ได้รับคำสั่งจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยให้เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าด้วยน้ำมันเตา ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสำรองเพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติที่มีราคาสูงขึ้น จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของโรงไฟฟ้า พบว่า ยังมีค่ามาตรฐานเป็นไปตามที่กฏหมายกำหนด ซึ่งระบบการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากปล่องระบายอากาศ ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องและแม่นยำโดยหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากภายนอกด้วย
โรงไฟฟ้า | ค่าเฉลี่ยความเข้มข้นของปริมาณมลสาร จากการเผาไหม้ของโรงไฟฟ้า | ||||
---|---|---|---|---|---|
NOX (ppm) | SO2 (ppm) | เชี้อเพลิงสำรอง | |||
ก๊าซธรรมชาติ | น้ำมัน | ก๊าซธรรมชาติ | น้ำมัน | ||
โรงไฟฟ้าพลังความร้อนราชบุรี | 25.95 | 102.28 | 0.43 | 192.43 | น้ำมันเตา |
โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมราชบุรี | 31.63 | 114.40 | 2.54 | 30.62 | น้ำมันดีเซล |
เป้าหมาย (ไม่เกินค่ามาตรฐานกำหนด)* | 120 | 180 | 20 | 320 | - |
โรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น | 26.15 | - | 0.25 | - | ไม่มี |
โรงผลิตไฟฟ้านวนคร | 30.6 | - | 4.80 | - | ไม่มี |
โรงไฟฟ้าราช โคเจนเนอเรชั่น | 44.5 | - | <1 | - | ไม่มี |
โรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง | 44.7 | - | <2 | - | ไม่มี |
เป้าหมาย (ไม่เกินมาตรฐานที่กำหนดใน EIA) | 60 | - | 10 | - | - |
โรงไฟฟ้าสหโคเจน (ชลบุรี) หน่วยที่ HRSG#1 | 73.09 | - | 0.34 | - | ไม่มี |
โรงไฟฟ้าสหโคเจน (ชลบุรี) หน่วยที่ HRSG#2 | 75.13 | - | 0.29 | - | ไม่มี |
เป้าหมาย (ไม่เกินมาตรฐานที่กำหนดใน EIA) | 110 | - | 18 | - | - |
โรงไฟฟ้าสหโคเจน (ชลบุรี) หน่วยที่ HRSG#4 | 90.71 | - | 0.67 | - | ไม่มี |
เป้าหมาย (ไม่เกินมาตรฐานที่กำหนดใน EIA) | 108 | - | 18 | - | - |
โรงไฟฟ้าสหโคเจน (ชลบุรี) หน่วยที่ HRSG#5 | 22.83 | - | 0.54 | - | ไม่มี |
เป้าหมาย (ไม่เกินมาตรฐานที่กำหนดใน EIA) | 90 | - | 15 | - | - |
- ค่าความเข้มข้นของมลสารวัดจากระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติ (Continuous Emission Monitoring Systems)
* ค่ามาตรฐานตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องการกำหนดค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศที่ระบายออกจากโรงงานผลิต ส่ง หรือจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า พ.ศ. 2547
การตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าและชุมชน
นอกจากนี้ โรงไฟฟ้ายังมีการติดตามและเฝ้าระวังคุณภาพอากาศในบรรยากาศโดยทั่วไป ในบริเวณใกล้เคียงโรงไฟฟ้าที่ถูกวิเคราะห์และประเมินว่ามีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากกิจกรรมของโรงไฟฟ้าตามที่ระบุไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าและชุมชนใกล้เคียงในปี 2565 นี้ พบว่า คุณภาพอากาศในบรรยากาศทั่วไปมีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศ ส่วนค่าโอโซนในชั้นบรรยากาศของโรงไฟฟ้าราชบุรี พบว่า ค่าตรวจวัดที่สถานีทิศเหนือลมและสถานีทิศท้ายลมจากพื้นที่โครงการมีค่าสูงกว่ามาตรฐาน และมักเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงฤดูแล้งของทุกปี
โรงไฟฟ้า | ค่าเฉลี่ยในเวลา 24 ชั่วโมง | ค่าเฉลี่ยในเวลา 1 ชั่วโมง | ||||
---|---|---|---|---|---|---|
ฝุ่นละอองรวม (μg/m3) | ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (μg/m3) | SO2 (ppb) | SO2 (ppb) | NO2 (ppb) | O3 (ppb) | |
โรงไฟฟ้าราชบุรี | 4-151 | 3-119 | 0-7 | 0-53 | 0-56 | 0-156* |
โรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น | 13-91 | 5-39 | 0.9-4.7 | 0.1-6.7 | 0.1-44.7 | ไม่ตรวจวัด |
โรงผลิตไฟฟ้านวนคร | 26-108 | 12-60 | 1-6.2 | 1-9 | < 1-12.8 | ไม่ตรวจวัด |
โรงไฟฟ้าราช โคเจนเนอเรชั่น | 29-190 | 7-57 | 1.5-3.8 | 0.9-5.2 | 2-22.7 | 8.8-35.5 |
โรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง | 17-73 | 11-54 | ไม่ตรวจวัด | < 1-5 | < 1-36 | ไม่ตรวจวัด |
โรงไฟฟ้าสหโคเจน (ชลบุรี) | 18-178 | ไม่ตรวจวัด | ไม่ตรวจวัด | 1-39 | 1-40 | ไม่ตรวจวัด |
เป้าหมาย (ไม่เกินค่ามาตรฐาน) | 330[1] | 120[1] | 120[1] | 300[2] | 170[3] | 100[4] |
- มาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศทั่วไปตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
- [1] ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2547) เรื่อง กำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศโดยทั่วไป
- [2] ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 21 (พ.ศ. 2544) เรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในบรรยากาศทั่วไปในเวลา 1 ชั่วโมง
- [3] ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2552) เรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ในบรรยากาศโดยทั่วไป
- [4] ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 28 (พ.ศ. 2550) เรื่อง กำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศ ในบรรยากาศโดยทั่วไป
การจัดการมลภาวะทางเสียง
โรงไฟฟ้าของบริษัทฯ มีมาตรการในการเฝ้าระวังและควบคุมระดับเสียงจากกระบวนการผลิตให้เป็นไปตามที่มาตรฐานได้กำหนดไว้ โดยแหล่งกำเนิดเสียงที่สำคัญจะมาจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ปั๊มสูบน้ำ และกิจกรรมการบำรุงรักษาของโรงไฟฟ้า อย่างไรก็ดี โรงไฟฟ้าได้ดำเนินการและควบคุมให้เป็นไปตามที่มาตรฐานกำหนด เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อผู้ปฏิบัติงานและชุมชนโดยรอบพื้นที่โรงไฟฟ้า
การควบคุมและป้องกันเสียง | |
|
|
การตรวจวัดเสียง | |
|
|
ผลการตรวจวัดระดับเสียงปี 2565
โรงไฟฟ้าที่บริษัทฯ ควบคุมในประเทศไทยทั้งหมด จำนวน 6 แห่ง คิดเป็นสัดส่วนรายได้เท่ากับร้อยละ 83.81 ของรายได้รวมในปี 2565 สามารถควบคุมจัดการระดับเสียงให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด และที่สำคัญไม่มีข้อร้องเรียนเรื่องมลภาวะเสียงรบกวนจากพื้นที่ชุมชนโดยรอบในทุกโรงไฟฟ้า
หมายเหตุ: ค่ามาตรฐานระดับเสียงเฉลี่ย 24 ชั่วโมง (Leq 24 hr) และระดับเสียงสูงสุด (Lmax) อ้างอิงค่ามาตรฐานตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2540) เรื่อง กำหนดมาตรฐานระดับเสียงโดยทั่วไป