การจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม
บริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดการสิ่งแวดล้อมโดยใช้แนวทางการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อควบคุมการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อป้องกันผลกระทบและผลเสียที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่นำมาใช้ รวมถึงมีระบบการติดตามคุณภาพ มลภาวะหรือของเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต นอกเหนือไปจากนั้นยังมีเป้าหมายในการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับหรือกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมให้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์และมีคุณภาพที่ดีกว่าที่มาตรฐานกำหนด
นโยบายสิ่งแวดล้อมและสังคม
บริษัทฯ ตั้งใจที่จะนํานโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม มาเป็นกรอบในการดำเนินธุรกิจและแนวทางการดำเนินงานในทุกกระบวนการและกิจกรรม ครอบคลุมถึงกระบวนการศึกษาความเหมาะสมสำหรับการลงทุนโครงการใหม่ การตรวจสอบข้อมูลสำหรับการควบรวมและซื้อกิจการ การประเมินคู่ค้าสำคัญทางธุรกิจทั้งของบริษัทฯ บริษัทย่อย และกิจการที่บริษัทฯ มีอำนาจบริหารทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งจะส่งเสริมให้บริษัทร่วมทุน ผู้ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ในห่วงโซ่อุปทานของบริษัทฯ ทั้งในประเทศและต่างประเทศดําเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และนํานโยบายฉบับนี้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ หรือประยุกต์ใช้ตามความเหมาะสม
| ประเด็นสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมของนโยบาย |
|---|
|
ข้อมูลเพิ่มเติม: นโยบายสิ่งแวดล้อมและสังคม
โรงไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทฯ ได้ดำเนินการผลิตพลังงานไฟฟ้าเข้าสู่ระบบไฟฟ้าของประเทศทั้งจากที่เป็นเชื้อเพลิงฟอสซิล และแหล่งพลังงานทดแทน โดยการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิลของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) และโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) มีการใช้เชื้อเพลิงเผาไหม้และได้พลังงานไฟฟ้าปริมาณมาก (ร้อยละ 83 ของปริมาณการผลิตสุทธิของโรงไฟฟ้าทั้งกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2567) ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของระบบไฟฟ้าหรือตามที่ศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าแห่งชาติสั่งการ ส่วนการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทดแทนนั้นไม่มีการใช้เชื้อเพลิงในการผลิต ปริมาณพลังงานไฟฟ้าจึงผันแปรตามสภาพธรรมชาติ (ร้อยละ 17 ของปริมาณการผลิตสุทธิของโรงไฟฟ้าทั้งกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2567)
นอกจากนี้ การผลิตพลังงานไฟฟ้ายังต้องใช้น้ำเป็นวัตถุดิบประกอบด้วย เช่น การใช้น้ำในระบบหล่อเย็น การผลิตน้ำปลอดแร่ธาตุเพื่อนำมาใช้ในหม้อต้มน้ำ (Boiler) เป็นต้น โรงไฟฟ้าของบริษัทฯ จะใช้วิธีดึงน้ำจากแหล่งน้ำมาใช้ใน 2 รูปแบบ คือ สูบตรงจากแหล่งน้ำดิบ เช่น น้ำผิวดิน (แม่น้ำลำคลอง) น้ำใต้ดิน และการซื้อน้ำดิบหรือน้ำที่ปรับปรุงคุณภาพแล้วอย่างน้ำประปามาใช้ ซึ่งทั้งสองรูปแบบจะคำนึงถึงระดับความตึงเครียดของแหล่งน้ำ (Water Stress) ในพื้นที่ลุ่มน้ำที่กิจการนั้นพึ่งพาอยู่ด้วย
ในปี 2567 กลุ่มบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าที่อยู่ในขอบเขตการรายงานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม รวม 7 แห่ง เพิ่มขึ้น 1 แห่งจากปี 2566 คือ โรงไฟฟ้าหินกองเพาเวอร์ (ชุดที่ 1) กำลังการผลิต 770 เมกะวัตต์ โดยทั้ง 7 แห่งมีสัดส่วนรายได้ที่ร้อยละ 62.05 ของรายได้รวม
การกำกับดูแลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม
ภายใต้การพัฒนาและดำเนินงานระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและสังคม (Environmental and Social Management System : ESMS) บริษัทฯ ได้มีการประกาศนโยบายสิ่งแวดล้อมและสังคม พร้อมมอบหมายบุคลากรเพื่อทำหน้าที่ตามโครงสร้างกำกับดูแลระบบ ESMS ไว้อย่างครบถ้วน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนและปฏิบัติตามคู่มือและวิธีการที่กำหนด ตลอดจนรายงานผลการปฏิบัติจากทุกสายงานให้คณะกรรมการฯ คณะทำงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบเพื่อการปรับปรุงการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
โครงสร้้างการบริิหารจัดการระบบ ESMS

กรอบการดำเนินงานระบบ ESMS
ใช้หลักการ PDCA (Plan-Do-Check-Act) เพื่อให้การทำงานเป็นระบบ โดยมีเป้าหมายในการปรับปรุงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม และประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องตามข้อกำหนด

การใช้เชื้อเพลิงและพลังงาน
ในปี 2567 ภาพรวมการใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติและพลังงานไฟฟ้า เพื่อนำไปผลิตพลังงานไฟฟ้าและไอน้ำของโรงไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยและเป็นโรงไฟฟ้าที่บริษัทฯ มีอำนาจบริหารจัดการ จำนวน 7 แห่ง (กำลังผลิตรวม 5,118 เมกะวัตต์) ได้แก่ โรงไฟฟ้าราชบุรี โรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น โรงผลิตไฟฟ้านวนคร โรงไฟฟ้าราช โคเจนเนอเรชั่น โรงไฟฟ้าราช เอ็นเนอร์จี ระยอง โรงไฟฟ้าราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี และโรงไฟฟ้าหินกอง (ชุดที่ 1) รวมทั้งสิ้น 100,976 ล้านเมกะจูล จำแนกเป็น
- ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ รวม 48,919 ล้านเมกะจูล (13,588,671 เมกะวัตต์-ชั่วโมง)
- ปริมาณพลังงานไฟฟ้าและไอน้ำที่จำหน่าย รวม 47,622 ล้านเมกะจูล (13,228,268 เมกะวัตต์-ชั่วโมง) และ 1,301 ล้านเมกะจูล (466,328 ตัน) ตามลำดับ
สำหรับโรงไฟฟ้าราชบุรี กำลังการผลิตติดตั้งรวม 3,645 เมกะวัตต์ ในปีนี้มีเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 3 ชุด ชุดละ 725 เมกะวัตต์ ที่เดินเครื่องผลิตพลังงานไฟฟ้าโดยใช้ก๊าซธรรมชาติ ส่วนโรงไฟฟ้าพลังความร้อน 2 เครื่อง เครื่องละ 735 เมกะวัตต์ ถูกสั่งให้หยุดเดินเครื่องในลักษณะเตรียมพร้อม (reserved shutdown)
| ปริมาณการใช้/การผลิต | หน่วย | ปี 2567 | ปี 2566 | ปี 2565 |
|---|---|---|---|---|
| ปริมาณก๊าซธรรมชาติ | ล้าน ลบ.ฟุต | 98,991 | 87,674 | 149,202 |
| ล้านเมกะจูล | 100,970 | 89,428 | 152,186 | |
| ปริมาณน้ำมันเตา | ลิตร | 0 | 92,755,799 | 290,691,483 |
| ล้านเมกะจูล | 0 | 3,689 | 11,561 | |
| ปริมาณน้ำมันดีเซล | ลิตร | 153,445 | 6,168,914 | 21,881,178 |
| ล้านเมกะจูล | 6 | 225 | 797 | |
| ปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่นำเข้าจากระบบส่ง | เมกะวัตต์-ชั่วโมง | 52,172 | 40,813 | 46,905 |
| ล้านเมกะจูล | 188 | 147 | 169 | |
| ปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่มาจากพลังงานทดแทน | เมกะวัตต์-ชั่วโมง | 17,085 | 16,600 | 13,860 |
| ล้านเมกะจูล | 62 | 60 | 50 | |
| ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งหมด | เมกะวัตต์-ชั่วโมง | 13,588,671 | 11,141,093 | 18,958,341 |
| ล้านเมกะจูล | 48,919 | 40,108 | 68,250 | |
| ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตส่งจำหน่าย | เมกะวัตต์-ชั่วโมง | 13,228,268 | 10,842,852 | 18,488,776 |
| ล้านเมกะจูล | 47,622 | 39,034 | 66,560 | |
| ปริมาณไอน้ำที่ผลิตส่งจำหน่าย | ตัน | 466,328 | 459,544 | 475,252 |
| ล้านเมกะจูล | 1,301 | 1,292 | 1,338 |
แนวทางและเป้าหมายการใช้เชื้อเพลิงและพลังงาน
| ปัจจัยสำคัญ | แนวทางการดำเนินงาน | เป้าหมายปี 2567 | ผลการดำเนินงานปี 2567 |
|---|---|---|---|
| การออกแบบระบบเผาไหม้ |
|
โรงไฟฟ้าแต่ละแห่งมีอัตราการใช้ความร้อน (Heat rate) เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
|
อัตราการใช้ความร้อนเป็นไปตามเป้าหมายที่โรงไฟฟ้าส่วนใหญ่กำหนด
|
| ความพร้อมของเครื่องจักร/อุปกรณ์ |
|
โรงไฟฟ้าทุกแห่งสามารถทำการบำรุงรักษาเครื่องจักร/อุปกรณ์ได้สมบูรณ์และแล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดไว้ (Planned Outage) | การบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าปี 2567 เป็นไปตามแผนงานที่โรงไฟฟ้าทุกแห่งกำหนด |
| ประสิทธิภาพการผลิต |
|
โรงไฟฟ้าแต่ละแห่งสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายการลดใช้พลังงาน/เชื้อเพลิงที่กำหนด | โรงไฟฟ้าทุกแห่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยการลดใช้พลังงาน/เชื้อเพลิงได้ตามเป้าหมาย (ร้อยละ 100) โดยมีค่าเฉลี่ยของประสิทธิภาพการผลิตในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 43.67-67.34 |

การบริหารจัดการน้ำ

จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อปริมาณและคุณภาพของแหล่งน้ำดิบ ทั้งกรณีน้ำแล้งและน้ำท่วม หรือปัญหาการลุกล้ำของน้ำเค็มในบางช่วงฤดูกาล ทำให้กลุ่มบริษัทฯ ต้องบริหารจัดการน้ำเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อการได้น้ำดิบที่เป็นวัตถุดิบมาใช้ในการผลิตพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้จากการขายไฟฟ้าและการแย่งชิงน้ำใช้กับชุมชนหรือพื้นที่เกษตรกรรม
บริษัทฯ ได้จัดทำกระบวนการประเมินความเสี่ยงเรื่องน้ำ (Water Risk Assessment Procedure) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของของระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมและสังคม (ESMS) เป็นเครื่องมือในการประเมินความเสี่ยงตามเกณฑ์ของ WWF Water Risk Filter, World’s Resources Institute (WRI) Aqueduct เพื่อใช้วิเคราะห์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เช่น ด้านข้อกำหนดของกฎหมาย ด้านการเงิน ด้านปริมาณ/คุณภาพและสมดุลการใช้น้ำ และกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องกับการใช้น้ำ จากนั้นจึงนำมาจัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำ
การประเมินระดับความตึงเครียดของน้ำและการบริหารจัดการน้ำ
แหล่งน้ำดิบสำคัญที่ถูกนำมาใช้ในกระบวนการผลิตหลักของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2567 ยังคงเป็น 3 ลุ่มน้ำหลัก ได้แก่ ลุ่มแม่น้ำแม่กลอง ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และลุ่มแม่น้ำบางปะกง ซึ่งแม่น้ำแม่กลองจะนำมาใช้เป็นแหล่งน้ำดิบโดยตรงสำหรับโรงไฟฟ้าในจังหวัดราชบุรี และลุ่มแม่น้ำบางปะกง สำหรับโรงไฟฟ้าในจังหวัดชลบุรี และระยอง ส่วนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาจะเป็นแหล่งน้ำที่ผู้จัดหาน้ำนำมาใช้ในการผลิตน้ำประปาเพื่อนำส่งให้กลุ่มโรงไฟฟ้าในจังหวัดปทุมธานีใช้ในกระบวนการผลิต

ผลการประเมินระดับความตึงเครียดของน้ำในปี 2567 ของ 3 ลุ่มแม่น้ำดังกล่าว พบว่า ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและลุ่มแม่น้ำบางปะกง จัดอยู่ในระดับที่มีความตึงเครียดของน้ำสูง (40-80%) จึงได้มีการกำหนดแนวทางการบริหารความเสี่ยง และมาตรการบริหารจัดการการใช้น้ำของโรงไฟฟ้า เพื่อให้สามารถคงศักยภาพในการผลิตและไม่สร้างผลกระทบต่อชุมชนในการแย่งชิงทรัพยากรน้ำ
แนวทางการบริหารความเสี่ยงและมาตรการการจัดการทรัพยากรน้ำ
สำหรับโรงไฟฟ้าที่มีการใช้น้ำดิบและน้ำประปาจากแหล่งลุ่มน้ำที่มีระดับความตึงเครียดสูง จะมีแนวทางและมาตรการดำเนินการดังนี้
- โรงผลิตไฟฟ้านวนคร และโรงไฟฟ้าราช โคเจนเนอเรชั่น ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดปทุมธานี ใช้น้ำประปาจากแหล่งน้ำดิบในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในการผลิตไฟฟ้า โดยมีสัญญาซื้อขายน้ำประปากับผู้ให้บริการน้ำประปาระยะยาว 25 ปี (ตลอดอายุโรงไฟฟ้า)
- โรงไฟฟ้าราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี (ชื่อเดิม : สหโคเจน (ชลบุรี)) ในจังหวัดชลบุรี และโรงไฟฟ้าราช เอ็นเนอร์จี ระยอง ในจังหวัดระยอง ใช้น้ำดิบจากลุ่มแม่น้ำบางปะกงโดยตรง ผ่านสัญญาซื้อขายน้ำดิบกับผู้ให้บริการน้ำดิบระยะยาว 10 ปี และ 25 ปี ตามลำดับ
- โรงไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายน้ำดิบหรือน้ำประปาจะกำหนดให้ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำประปา ต้องจัดหาแหล่งน้ำสำรอง และแหล่งน้ำฉุกเฉินเพื่อรองรับกระบวนการผลิตให้ได้อย่างต่อเนื่อง กรณีที่เกิดภัยแล้งหรือการขาดแคลนน้ำในแหล่งลุ่มน้ำหลัก
- โรงไฟฟ้าแต่ละแห่งจัดให้มีบ่อหรือระบบเก็บน้ำสำรองเพื่อให้ใช้ภายในโครงการได้อย่างน้อย 10 วัน และติดตั้งระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำก่อนเข้าระบบการผลิต
- ทำการเพิ่มรอบการใช้น้ำหมุนเวียนในระบบหล่อเย็นให้ได้มากที่สุด เพื่อลดการดึงน้ำดิบเข้าสู่กระบวนการผลิต
- เพิ่มการใช้น้ำซ้ำภายในโครงการ เช่น การนำน้ำทิ้งที่ผ่านกระบวนการผลิตแล้วมาบำบัดด้วยระบบ RO เพื่อให้ได้คุณภาพและนำกลับไปใช้ในกระบวนการผลิต การนำน้ำฝนมาใช้ประโยชน์ในกระบวนการผลิต หรือนำมาใช้ในการล้างเครื่องจักรอุปกรณ์/รดน้ำต้นไม้
- ทำการตรวจสอบระบบและท่อส่งน้ำเพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำดิบและน้ำประปาตามแผนอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดการสูญเสียน้ำ
การใช้น้ำหมุนเวียนในกระบวนการผลิตเพื่อลดการใช้น้ำ
โรงไฟฟ้าทุกแห่ง มีเป้าหมายที่จะรักษาและเพิ่มจำนวนรอบการใช้น้ำหมุนเวียนระบบหล่อเย็นให้มากที่สุด เพื่อลดการดึงน้ำดิบจากแหล่งน้ำธรรมาชาติให้ได้มากที่สุด โดยโรงไฟฟ้า 7 แห่ง (คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 62.5 ของกำลังการผลิตประเภทเชื้อเพลิงฟอสซิล) ดำเนินการได้ตามเป้าหมายจำนวนรอบใช้น้ำซ้ำในระบบหล่อเย็น
| โรงไฟฟ้า | จังหวัด | เป้าหมายรอบการใช้น้ำ (รอบ) |
จำนวนรอบ การใช้น้ำเฉลี่ย (รอบ) |
|---|---|---|---|
| โรงไฟฟ้าพลังความร้อนราชบุรี 2 เครื่อง เครื่องละ 735 เมกะวัตต์ (รวม 1,470 เมกะวัตต์) |
ราชบุรี | ไม่กำหนดเนื่องจาก ไม่มีการเดินเครื่อง |
- |
| โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมราชบุรี 3 ชุด ชุดละ 725 เมกะวัตต์ (รวม 2,175 เมกะวัตต์) |
4-6 | 4.88 | |
| โรงไฟฟ้าหินกอง ชุดที่ 1 (770 เมกะวัตต์) | 4-5 | 4.27 | |
| โรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น (99.46 เมกะวัตต์) | 3-5 | 3.58 | |
| โรงผลิตไฟฟ้านวนคร 2 ชุด (รวม 201.57 เมกะวัตต์) | ปทุมธานี | 4 | 4.37 |
| โรงไฟฟ้าราช โคเจนเนอเรชั่น (119.75 เมกะวัตต์) | 6 | 7.77 | |
| โรงไฟฟ้าราช โคเจนเนอเรชั่น (ส่วนขยาย) (31.2 เมกะวัตต์) | 5 | 5.93 | |
| โรงไฟฟ้าราช เอ็นเนอร์จี ระยอง (98 เมกะวัตต์) | ระยอง | 5-10 | 6.26 |
| โรงไฟฟ้าราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี (153 เมกะวัตต์) | ชลบุรี | 5-13 (ชุดที่ 1) | 6.78 |
| 3-8 (ชุดที่ 2-3) | 4.70 |
นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าราชบุรีที่เป็นโรงไฟฟ้า IPP หลักของบริษัทฯ (ขนาด 3,645 เมกวัตต์) มีเป้าหมายที่จะลดการใช้น้ำดิบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมราชบุรี ที่ยังคงมีการเดินเครื่องตลอดทั้งปี เพื่อช่วยรักษาระดับความตึงเครียดของแหล่งน้ำใช้ในลุ่มแม่น้ำแม่กลองให้คงอยู่ในระดับไม่สูงต่อไป ในปี 2567 โรงไฟฟ้าราชบุรีสามารถลดการใช้น้ำดิบได้รวม 3,355,191 ลูกบาศก์เมตร
ภาพรวมการบริโภคน้ำของกลุ่มบริษัทฯ (โรงไฟฟ้าราชบุรี)
| การลดการใช้น้ำ | เทียบเป็นปริมาณน้ำดิบที่ลดได้ (ลบ.ม.) | รวมปริมาณน้ำที่ลดได้ เพื่อทดแทนการใช้น้ำดิบ (ลบ.ม.) | เป้าหมาย (ลบ.ม.) |
|---|---|---|---|
| การหมุนเวียนการใช้น้ำในระบบหล่อเย็น | 2,360,317 | 3,355,191 | 2,000,000 |
| การใช้ระบบ RO เพื่อนำน้ำทิ้งกลับมาใช้ใหม่ | 304,425 | ||
| การนำน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วมาใช้ในงานล้างทำความสะอาดอุปกรณ์/ดูแลพื้นที่สีเขียว | 690,449 |
เปรียบเทียบปริมาณการใช้น้ำและสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าตามระดับความตึงเครียดของน้ำ
| โรงไฟฟ้า | แหล่งน้ำที่ใช้ | ระดับความตึงเครียดของน้ำ | ปริมาณน้ำที่นำมาใช้ | ปริมาณน้ำทิ้ง | ปริมาณการใช้น้ำสุทธิ (น้ำดิบ-น้ำทิ้ง) | ปริมาณน้ำที่ใช้ต่อหน่วยการผลิต (ลบ.ม./ เมกะวัตต์-ชั่วโมง) |
สัดส่วนการผลิตไฟฟ้า (ร้อยละ) | ||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ต่ำ-ปานกลาง (10-20%) | ปานกลาง-สูง (21-40%) | สูง (41-80%) |
(ล้าน ลบ.ม.) | ||||||
| ราชบุรี | น้ำดิบจากลุ่มแม่น้ำแม่กลอง | - | ✔ | - | 4.57 | 1.14 | 3.44 | 1 | 34.45 |
| เบิกไพร โคเจนเนอเรชั่น |
- | ✔ | - | 0.91 | 0.27 | 0.64 | 1.49 | 4.62 | |
| หินกอง (ชุดที่ 1) | - | ✔ | - | 5.21 | 1.31 | 3.91 | 1.07 | 36.73 | |
| นวนคร | น้ำประปาที่ผลิตจากแม่น้ำเจ้าพระยา | - | - | ✔ | 1.81 | 0.62 | 1.19 | 1.61 | 8.48 |
| ราช โคเจนเนอเรชั่น | - | - | ✔ | 0.94 | 0.19 | 0.75 | 1.24 | 5.78 | |
| ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง | น้ำดิบจากลุ่มแม่น้ำบางปะกง | - | - | ✔ | 0.71 | 0.12 | 0.59 | 1.17 | 4.59 |
| ราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี | - | - | ✔ | 1.71 | 0.54 | 1.17 | 2.42 | 5.35 | |
การจัดการของเสีย
ในปี 2567 การบริหารจัดการของเสียทั้งประเภทที่เป็นอันตรายและไม่เป็นอันตรายจากกระบวนการผลิต การบำรุงรักษา และกิจกรรมในอาคารสำนักงาน ยังคงยึดใช้หลัก 3R คือ การพยายามลดการใช้ (Reduce) การนำใช้ซ้ำ (Reuse) และการนำกลับเข้าสู่กระบวนการให้สามารถกลับมาใหม่ได้ (Recycle) เพื่อตอบสนองเป้าหมายการฝังกลบของเสียอันตรายให้เป็นศูนย์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ริเริ่มกำหนดเป้าหมายปริมาณของเสียไม่อันตรายของกลุ่มบริษัทฯ ด้วย
เป้าหมายและแนวทางการจัดการของเสีย
| เป้าหมาย | แนวทางการจัดการของเสีย | |
|---|---|---|
| ของเสียอันตราย | ลดการกำจัดด้วยวิธีการฝังกลบให้เป็นศูนย์ (Zero Hazardous Waste to Landfill) |
|
| ของเสียไม่อันตราย |
โรงไฟฟ้าสงขลาไบโอ แมส
ราช กรุ๊ป
|
|
ผลการจัดการของเสียของโรงไฟฟ้า
ในปี 2567 กลุ่มโรงไฟฟ้ารวม 7 แห่ง ที่มีสัดส่วนรายได้คิดเป็นร้อยละ 62.05 ของรายได้รวมปี 2567 ดำเนินการจัดการของเสียด้วยวิธีนำกลับไปใช้ใหม่ด้วยกระบวนการ Recovery คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.11 ของปริมาณของเสียทั้งหมด และนำไปกำจัด ร้อยละ 97.89 โดยในปี 2568 โรงไฟฟ้าหินกองจะนำกากตะกอนจากระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำไปใช้ประโยชน์แทนการฝังกลบต่อไป รายละเอียดเป็นดังนี้
| การจัดการ | วิธีการจัดการ | ปริมาณของเสีย (ต้น) | ปริมาณรวม (ตัน) | ร้อยละ | |
|---|---|---|---|---|---|
| อันตราย | ไม่อันตราย | ||||
| ร้อยละ 2.11 การนำกลับไปใช้ใหม่ด้วยกระบวนการ Recovery | นำกลับไปใช้ใหม่ (Reuse) | 0 | 0 | 0 | - |
| นำไปรีไซเคิล (Recycle) เช่น ขยะจากสำนักงาน (แก้ว กระดาษ พลาสติก) | 6.25 | 20.85 | 27.10 | 1.03 | |
| นำกลับไปใช้ใหม่ด้วยวิธีอื่น (Other Recovery Operations) เช่น เศษวัสดุก่อสร้าง น้ำมันหล่อลื่นใช้แล้ว | 22.44 | 6.99 | 29.43 | 1.10 | |
| ร้อยละ 97.89 การนำไปกำจัด (Disposal) | เผาแล้วได้พลังงานกลับมาใช้ (Incineration with Energy Recovery) เช่น เศษผ้าเปื้อนน้ำมัน | 0.60 | 25.76 | 26.36 | 0.99 |
| เผาทิ้งโดยไม่ได้พลังงานมาใช้ (Incineration without Energy Recovery) เช่น ของเสียที่มีน้ำมันปนเปื้อน | 0 | 27.39 | 27.39 | 1.02 | |
| ฝังกลบ (Landfilling) เช่น กากตะกอนจากระบบปรับปรุง/บำบัดน้ำเสีย | 2,224.74 | 37.57 | 2,262.31 | 84.62 | |
| กำจัดด้วยวิธีการอื่น (Other Disposal Operations) เช่น กากตะกอน | 17.85 | 283.02 | 300.87 | 11.25 | |
การจัดการคุณภาพอากาศ
การดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนและความร้อนร่วมจำเป็นจะต้องมีการระบายอากาศเสียที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงชนิดต่างๆ ออกสู่ชั้นบรรยากาศ บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญและเข้มงวดในการควบคุมและจัดการมลสารสำคัญต่างๆ ได้แก่ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ออกไซด์ของไนโตรเจน และฝุ่นละอองให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานการระบายอากาศที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด


ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากปล่องโรงไฟฟ้า (ประเทศไทย)
โรงไฟฟ้าในประเทศไทย รวม 7 แห่ง ที่บริษัทฯ มีอำนาจบริหารจัดการ (สัดส่วนรายได้ ร้อยละ 62.05 ของรายได้รวม) มีการตรวจวัดความเข้มข้นของปริมาณมลสารจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงตามที่กฎหมายกำหนดอย่างต่อเนื่องผ่านระบบ CEMS (Continuous Emission Monitoring Systems) หรือการสุ่มเก็บตัวอย่างคุณภาพอากาศจากปล่องเพื่อตรวจวัดปริมาณมลสาร ในปีนี้ค่ามลสารจากการตรวจวัดของโรงไฟฟ้าทุกแห่งยังคงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศจากปล่อง ได้ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องของการตรวจวัด โดยหน่วยงานภายนอกตามแผนงานทุกปีด้วย ทำให้มั่นใจว่า ข้อมูลที่รายงานต่อหน่วยงานควบคุมหรือกำกับดูแลมีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ
| โรงไฟฟ้า | ค่าเฉลี่ยความเข้มข้นของปริมาณมลสารจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่ระบายจากโรงไฟฟ้า | ||||
|---|---|---|---|---|---|
| NOX (ppm) | SO2 (ppm) | เชี้อเพลิงสำรอง | |||
| ก๊าซธรรมชาติ | น้ำมัน | ก๊าซธรรมชาติ | น้ำมัน | ||
| โรงไฟฟ้าพลังความร้อนราชบุรี | หยุดเดินเครื่องในลักษณะ reserved shutdown | น้ำมันเตา | |||
| โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมราชบุรี | 33.7 | - | 2.72 | - | น้ำมันดีเซล |
| เป้าหมาย (ไม่เกินค่ามาตรฐานกฎหมาย)* | 120 | 180 | 20 | 320 | - |
| โรงไฟฟ้าหินกอง ชุดที่1 | 45.33 | 0 | 0.59 | 0 | น้ำมันดีเซล |
| เป้าหมาย (ไม่เกินมาตรฐานตามข้อกำหนดใน EIA) | 59 | 99 | 10 | 20 | - |
| โรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น | 34.29 | - | <0.1 | - | ไม่มี |
| โรงไฟฟ้าราช โคเจนเนอเรชั่น | 42.01 | - | <1 | - | ไม่มี |
| โรงผลิตไฟฟ้านวนคร | 24.79 | - | 0.67 | - | ไม่มี |
| โรงไฟฟ้าราช เอ็นเนอร์จี ระยอง | 37.82 | - | 0.51 | - | ไม่มี |
| เป้าหมาย (ไม่เกินมาตรฐานตามข้อกำหนดใน EIA) | 60 | - | 10 | - | - |
| โรงไฟฟ้าราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี หน่วยที่ HRSG#4 | 58.77 | - | 0.57 | - | ไม่มี |
| เป้าหมาย (ไม่เกินมาตรฐานตามข้อกำหนดใน EIA) | 108 | - | 18 | - | - |
| โรงไฟฟ้าราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี หน่วยที่ HRSG#5 | 20.54 | - | 0.36 | - | ไม่มี |
| เป้าหมาย (ไม่เกินมาตรฐานตามข้อกำหนดใน EIA) | 90 | - | 15 | - | - |
| โรงไฟฟ้าราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี หน่วยที่ HRSG#6 | 41.78 | - | 0.34 | - | ไม่มี |
| เป้าหมาย (ไม่เกินมาตรฐานตามข้อกำหนดใน EIA) | 60 | - | 10 | - | - |
| หมายเหตุ : | * ค่ามาตรฐานตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องการกำหนดค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศที่ระบายออกจากโรงงานผลิต ส่ง หรือจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า พ.ศ. 2547 |
ระบบเฝ้าระวังคุณภาพอากาศจากปลายปล่อง
โรงไฟฟ้า กำหนดมาตรการแจ้งเตือนเพื่อป้องกันความเสี่ยงในกรณีที่ระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศจากปลายปล่อง พบค่ามลสารสูงขึ้นจนถึงร้อยละ 80-85 (High Alarm) หรือร้อยละ 95 (High High Alarm) ของเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ระบบจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนบนจอควบคุม ซึ่งผู้รับผิดชอบจะดำเนินการตรวจสอบกระบวนการผลิตและความถูกต้องของระบบตรวจวัด หากพบความผิดปกติจะทำการปรับปรุงแก้ไขให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด พร้อมรายงานหน่วยงานกำกับดูแลและที่เกี่ยวข้องรับทราบ หากยังไม่สามารถแก้ไขได้จะทำการลดการผลิตไปจนถึงหยุดการผลิต จนกว่าจะสามารถแก้ไขกลับสู่ปกติได้
กระบวนการแจ้งเตือน

ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในชุมชน
ปี 2567 โรงไฟฟ้าทั้ง 7 แห่งมีการติดตามตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศในพื้นที่ชุมชนโดยรอบโครงการ ตามจุดที่ตั้งสถานีตรวจวัด และรอบการตรวจวัดแต่ละช่วงฤดูกาลที่กำหนดไว้ใน EIA หรือ EHIA สำหรับโรงไฟฟ้าราชบุรีที่เป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่จะมีการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศ (AAQMs : Ambient Air Quality Monitoring Systems) รอบโรงไฟฟ้าแบบถาวรจำนวน 4 สถานี เพื่อวัดค่าให้ได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีหน่วยงานภายนอกเข้าตรวจสอบประสิทธิภาพและความถูกต้องของเครื่องตรวจวัดเป็นประจำทุกปี
| ผลตรวจตรวจวัด คุณภาพอากาศ ในชุมชนรอบโรงไฟฟ้า |
ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง | ค่าเฉลี่ย 1 ชั่วโมง | ||||
|---|---|---|---|---|---|---|
| ฝุ่นละอองรวม (μg/m3) | ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (μg/m3) | SO2 (ppb) | SO2 (ppb) | NO2 (ppb) | O3 (ppb) | |
| โรงไฟฟ้าราชบุรี | 9-132 | 8-122 | 0-6 | 0-8 | 0-41 | 0-138 |
| โรงไฟฟ้าหินกอง ชุดที่1 | 17-100 | 5-46 | 4-5 | 4-6 | 3-12 | ไม่ตรวจวัด |
| โรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น | 21-84 | 7-50 | 0.8-4.2 | 0.1-5.5 | 1.5-19.8 | ไม่ตรวจวัด |
| โรงไฟฟ้าราช โคเจนเนอเรชั่น | 33-154 | 13-94 | 2.6-4.8 | 1.6-6.3 | 11.9-24.7 | 13.9-29.8 |
| โรงผลิตไฟฟ้านวนคร | 14-213 | 8-116 | 1.2-6.4 | 0-7.2 | 0.7-27 | ไม่ตรวจวัด |
| โรงไฟฟ้าราช เอ็นเนอร์จี ระยอง | 19-89 | 9-44 | <1-9.9 | <1-24 | <1-19.6 | ไม่ตรวจวัด |
| โรงไฟฟ้าราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี | 32-433 | 19-167 | <1-68 | 1-68 | 1-38 | ไม่ตรวจวัด |
| เป้าหมาย (ไม่เกินค่ามาตรฐานฯ*) | 330 | 120 | 120 | 300 | 170 | 100 |
| หมายเหตุ : | μg/m3 หมายถึง ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ppb (part per billion) หมายถึง ส่วนในพันล้านส่วน |
| * ค่ามาตรฐานตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 21, 24, 28 และ 33 |
การจัดการเสียง

เสียงที่เกิดจากงานก่อสร้างและงานเดินเครื่อง-บำรุงรักษาโรงไฟฟ้า อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งมีชีวิต รวมถึงผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่เป็นแหล่งกำเนิดเสียงนั้น ดังนั้น โรงไฟฟ้าทุกแห่งจึงมีการออกแบบระบบหรือเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ช่วยลดเสียงจากแหล่งกำเนิด รวมทั้งดำเนินมาตรการอื่นร่วมด้วย การป้องกันผลกระทบเรื่องเสียงที่โรงไฟฟ้านำมาใช้ดำเนินการแบ่งได้เป็น 3 แนวทาง คือ การป้องกันที่แหล่งกำเนิดเสียง ทางผ่านของเสียง และตัวผู้รับเสียง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมโครงการและผู้ที่ได้รับผลกระทบ

ผลการตรวจวัดระดับเสียง ปี 2567
โรงไฟฟ้าในประเทศไทยทั้ง 7 แห่ง (สัดส่วนรายได้ร้อยละ 62.05 ของรายได้รวมปี 2567) สามารถดำเนินการควบคุมผลกระทบเรื่องเสียงได้ตามมาตรการที่ EIA กำหนดทั้งหมด ทำให้ระดับเสียงเฉลี่ยและระดับเสียงสูงสุดที่ตรวจวัดปี 2567 ทั้งในที่ตั้งโครงการและในชุมชน อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกำหนดโดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน

หมายเหตุ : มาตรฐานระดับเสียงเฉลี่ย 24 ชั่วโมง และระดับเสียงสูงสุด ตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2540)




