เป้าหมายและการจัดการความปลอดภัยและอาชีวอนามัย

บริษัทฯ มีความแน่วแน่ที่จะพัฒนาองค์กรให้มีความปลอดภัย โดยปราศจากอุบัติเหตุ การบาดเจ็บจากการทำงาน และปลอดโรค โดยได้เน้นย้ำการปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนด และมาตรฐานด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยที่ได้รับการยอมรับอย่างเข้มงวดและถือเป็นประเด็นสำคัญที่ได้กำหนดเป็นหลักปฏิบัติด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในจรรยาบรรณบริษัทฯ พร้อมทั้งนโยบายด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย จรรยาบรรณคู่ค้า และนโยบายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นความปลอดภัยและอาชีวอนามัย อีกทั้งจรรยาบรรณและนโยบายต่างๆ ได้ถูกสื่อสารไปยังผู้ปฏิบัติงานทุกระดับ ผู้รับเหมา และผู้รับเหมาช่วง เพื่อให้เกิดความตระหนักและใส่ใจกับความปลอดภัยในการทำงานทั่วทั้งองค์กร

แนวทางการบริหารจัดการความปลอดภัยและอาชีวอนามัยตามจรรยาบรรณบริษัทฯ
  • จัดทำข้อกำหนดด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ/เจ็บป่วยจากการทำงาน และสื่อสารให้ความรู้และเข้าใจการปฏิบัติงาน และยุติการปฏิบัติงานที่ไม่ปลอดภัย พร้อมทั้งฝึกซ้อมแผนรองรับเหตุฉุกเฉิน
  • จัดทำข้อกำหนดและมาตรการป้องกันปัญหายาเสพติด เน้นให้ผู้บังคับบัญชาเป็นแบบอย่างที่ดี และควบคุมดูแลการกระทำความผิดและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการในการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติด
  • จัดทำแผนการจัดการภาวะวิกฤติเพื่อลดความเสียหาย ที่สอดคล้องกับการจัดการแผนรองรับเหตุฉุกเฉินของบริษัทในเครือกับแผนการจัดการภาวะวิกฤติของบริษัทฯ และสื่อสารเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • มีวิธีปฏิบัติ/อุปกรณ์เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อสร้างและรักษาสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ปลอดภัย พร้อมทั้งตรวจสอบประวัติของผู้ปฏิบัติงานทุกคนและมีกระบวนการที่ชัดเจนในการรายงานกรณีเกิดความผิดปกติ
นโยบายที่เกี่ยวข้อง

กลุ่มบริษัทฯ ได้แก่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด และบริษัท ราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี จำกัด (มหาชน) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 47.40% ของรายได้ทั้งหมด ได้นำระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ISO45001 มาใช้ในการดำเนินงาน

ข้อมูลเพิ่มเติม: จรรยาบรรณบริษัทฯ
โครงสร้างกำกับดูแลการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
เป้าหมายและผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัย ปี 2567

บริษัทฯ และกลุ่มกิจการที่บริษัทฯ มีอำนาจบริหาร (คิดเป็น 84.64% ของรายได้ทั้งหมด) ได้กำหนดเป้าหมาย เพื่อเป็นเครื่องวัดประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านความปลอดภัย ดังนี้

เป้าหมาย ผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัย
อาคารสำนักงานใหญ่ (RATCH)
อุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์
  • ไม่มีอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน
  • มีอุบัติเหตุไม่ถึงขั้นหยุดงาน จำนวน 1 ราย
    • ดำเนินการตรวจสอบสาเหตุ และจัดให้มีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่เหมาะสมกับสภาพการทำงานและเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติงานให้มากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
โรงไฟฟ้าราชบุรี (RGCO)
  • อุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์
  • อัตราความถี่ของอุบัติเหตุ (TIFR) น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1.5
  • ความเสียหายเพลิงไหม้และการเสียชีวิตเป็นศูนย์
  • ไม่มีอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน
  • ไม่มีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้น
  • มีอุบัติเหตุไม่ถึงขั้นหยุดงาน จำนวน 1 ราย
    • ดำเนินการการประเมินความเสี่ยงการทำงานใหม่ พร้อมทั้งกำหนดมาตรการที่ใช้ในการทำงานเพิ่มเติม และสื่อสารมาตรการป้องกันที่กำหนดขึ้นใหม่ให้ผู้ปฏิบัติงานทราบ
โรงไฟฟ้าราช โคเจนเนอเรชั่น (รวมส่วนขยาย) (RCO)
  • อัตราความถี่ของอุบัติเหตุ (TIFR) น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1
  • ไม่เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นเสียชีวิต
  • ไม่เกิดเพลิงไหม้ที่ส่งผลให้หยุดการผลิตทั้งหมด
  • ไม่มีอุบัติเหตุจากการทำงาน (TIFR = 0)
  • ไม่มีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้น
โรงไฟฟ้าราช เอ็นเนอร์จี ระยอง (RER)
อุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์
  • ไม่มีอุบัติเหตุจากการทำงาน
  • มีการประเมินความเสี่ยงและมีแนวทางป้องกันอันตรายก่อนการเริ่มงาน
  • พนักงานมีความตระหนักรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการปฏิบัติงานมากขึ้น
บริษัท ราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี จำกัด (มหาชน) (RPE)
  • ไม่มีอุบัติเหตุขั้นเสียชีวิต
  • อัตราความถี่ของการเจ็บป่วยด้วยโรคจากการทำงาน (OIFR) เป็นศูนย์
  • อัตราความถี่จากการบาดเจ็บจากการทำงานขั้นหยุดงาน (LTIFR) เป็นศูนย์
  • ไม่มีอุบัติเหตุ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินมูลค่าเกิน 50,000 บาท
  • ไม่มีอุบัติเหตุถึงขั้นเสียชีวิต
  • อัตราความถี่ของการเจ็บป่วยด้วยโรคจากการทำงาน (OIFR) เป็นศูนย์
  • อัตราความถี่จากการบาดเจ็บจากการทำงานถึงขั้นหยุดงาน (LTIFR) เป็นศูนย์
  • มีอุบัติเหตุไม่ถึงขั้นหยุดงาน จำนวน 2 ราย
    • ดำเนินการปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติงานและกำชับให้ผู้ปฏิบัติงานสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลและปฏิบัติตามวิธีปฏิบัติงานที่กำหนดอย่างครบถ้วน
    • จัดให้มีอุปกรณ์เฉพาะสำหรับขั้นตอนการทำงานที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุเพื่อลดความเสี่ยงของผู้ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งฝึกสอนวิธีการใช้งานของอุปกรณ์ดังกล่าวให้ผู้ปฏิบัติงานทราบและปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย
  • มีอุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินมูลค่าเกิน 50,000 บาท จำนวน 1 ครั้ง
    • ดำเนินการตรวจสอบสาเหตุ และปรับปรุงสภาพพื้นที่ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงให้มีความปลอดภัย รวมถึงการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปฏิบัติงานมีความระมัดระวังมากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
โรงผลิตไฟฟ้านวนคร (NNEG)
  • อุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์
  • การบริหารงานด้านความปลอดภัยฯ เป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง
  • มีอุบัติเหตุไม่ถึงขั้นหยุดงาน จำนวน 1 ราย
    • ดำเนินการตรวจสอบสาเหตุ และปรับปรุงสภาพพื้นที่การทำงานให้มีความปลอดภัย โดยติดอุปกรณ์กันลื่นบนพื้นทางเดิน และติดตั้งป้ายเตือนผู้ปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มความระมัดระวัง ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
โรงไฟฟ้าเบิกไพร โคเจนเนอเรชั่น (BPC)
อุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์
  • ไม่มีอุบัติเหตุจากการทำงาน
โรงไฟฟ้าอาซาฮาน-1 (Asahan-1)
อุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์
  • ไม่มีอุบัติเหตุจากการทำงาน
โรงไฟฟ้าสงขลาไบโอ แมส (SKB)
  • อุบัติการณ์ประเภทบุคคลขั้นหยุดงานต่อเนื่องตั้งแต่สามวันขึ้นไปเป็นศูนย์
  • อุบัติการณ์ถึงขั้นทุพพลภาพหรือเสียชีวิตเป็นศูนย์
  • อุบัติเหตุประเภททรัพย์สินเสียหายไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อปี
  • ไม่มีอุบัติเหตุจากการทำงาน
  • ไม่มีอุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน
โรงไฟฟ้าหินกอง (HKP)
อุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์
  • ไม่มีอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน
บริษัท โซลาร์ต้า จำกัด (SLT)
อุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์
  • ไม่มีอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน
บริษัท ราช-ออสเตรเลีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (RAC)
อุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์
  • ไม่มีอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน
บริษัท เอเชีย วอเตอร์ จำกัด (AWC)
อุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์
  • ไม่มีอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน
บริษัท ราช-ลาว เซอร์วิส จำกัด (RL)
อุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์
  • ไม่มีอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน
สถิติสำคัญด้านความปลอดภัย ปี 2567
โรงไฟฟ้า/สำนักงาน จำนวนผู้ปฏิบัติงาน (คน) จำนวนชั่วโมงการทำงาน (ชั่วโมง) อัตราการเสียชีวิตจากการทำงาน* อัตราความถี่ของการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน* (LTIFR) อัตราความถี่ของการบาดเจ็บทั้งหมด* (TIFR) อัตราการเกิดโรคจากการทำงาน* (TROIR)
พนักงาน ผู้รับเหมา รวม พนักงาน ผู้รับเหมา รวม พนักงาน ผู้รับเหมา พนักงาน ผู้รับเหมา พนักงาน ผู้รับเหมา พนักงาน ผู้รับเหมา
RATCH 217 2,274 2,491 440,033 279,449 719,482 0 0 0 0 0.45 0 0 0
RGCO 45 578 623 162,044 1,295,538 1,457,582 0 0 0 0 0 0.15 0 0
RCO 21 47 68 38,234 164,091 202,325 0 0 0 0 0 0 0 0
RER 35 568 603 70,541 40,613 111,154 0 0 0 0 0 0 0 0
NNEG 35 1,111 1,146 163,360 1,091,999 1,255,359 0 0 0 0 1.22 0 0 0
BPC 20 50 70 34,208 167,008 201,216 0 0 0 0 0 0 0 0
RPE Group** 209 1,964 2,173 416,027 629,235 1,045,263 0 0 0 0 0.48 0.32 0 0
SKB 76 16 92 137,372 60,328 197,700 0 0 0 0 0 0 0 0
RL 222 - 222 536,859 - 536,859 0 0 0 0 0 0 0 0
HKP 23 63 86 29,968 313,800 343,768 0 0 0 0 0 0 0 0
SLT 3 63 66 5,622 210,352 215,974 0 0 0 0 0 0 0 0
RAC 36 - 36 49,639 - 49,639 0 0 0 0 0 0 0 0
Asahan-1 20 95 115 36,960 518,825 555,785 0 0 0 0 0 0 0 0
AWC 7 11 18 2,226 2,226 4,452 0 0 0 0 0 0 0 0
ภาพรวมกลุ่มบริษัทฯ 969 6,840 7,809 2,123,092 4,773,463 6,896,555 0 0 0 0 0.28 0.08 0 0
หมายเหตุ: * สถิติอุบัติเหตุสำคัญประเมินต่อ 200,000 ชั่วโมงการทำงาน
** RPE Group หมายถึง บริษัท ราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี จำกัด (มหาชน), โรงไฟฟ้าสหโคเจน กรีน (SGN) และโรงไฟฟ้าสหกรีน ฟอเรสท์ (SGF)
การดำเนินงานด้านความปลอดภัย

บริษัทฯ และกิจการที่มีอำนาจบริหาร ได้ใช้ 6 แนวทางในการบริหารจัดการความปลอดภัยภายในองค์กร ดังนี้

การประเมินความเสี่ยงในการทำงาน

บริษัทฯ และกิจการทุกแห่งจะมีการวิเคราะห์และระบุปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดอันตรายในสถานที่ทำงาน รวมถึงประเมินความรุนแรงและโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ เพื่อกำหนดแนวทางป้องกันหรือควบคุมความเสี่ยง โดยมีเป้าหมายลดโอกาสและผลกระทบจากอันตรายให้น้อยที่สุด วิธีการวิเคราะห์ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ การระบุอันตราย (Hazard Identification) การวิเคราะห์ความเสี่ยง (Risk Analysis) การประเมินระดับความเสี่ยง (Risk Evaluation) เพื่อจำแนกความเสี่ยงตามระดับความรุนแรง และการกำหนดมาตรการควบคุมความเสี่ยง (Risk Control) เพื่อลดหรือกำจัดความเสี่ยง และการติดตามผลและปรับปรุง (Monitoring and Review) เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของมาตรการควบคุม

การจัดการความเสี่ยงและมาตรการควบคุม

บริษัทฯ ดำเนินการควบคุมความเสี่ยงและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในที่ทำงาน ตามระดับความเสี่ยงของงานนั้นๆ ทั้งการกำจัด (Elimination) ปัจจัยเสี่ยงทั้งหมด การใช้วัสดุ กระบวนการ หรือเครื่องมือที่มีความปลอดภัยกว่ามาแทนสิ่งที่มีความเสี่ยง การควบคุมทางวิศวกรรมด้วยการออกแบบหรือปรับปรุงสถานที่ทำงาน เครื่องจักร หรืออุปกรณ์ให้มีความปลอดภัยมากขึ้น การควบคุมทางปฏิบัติการ (Administrative Controls) โดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและนโยบายความปลอดภัย และการใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment - PPE)

หลักการควบคุมความเสี่ยง
การประเมินระดับความเสี่ยงของงาน ปี 2567
ระดับความเสี่ยง (งาน) RATCH RGCO RCO RER NNEG BPC RPE Group SKB Asahan-1 HKP SLT
สูง 1 0 25 0 0 0 0 0 230 0 0
ปานกลาง 0 422 683 0 35 351 312 0 313 0 15
ยอมรับได้ 13 233 615 110 15 25 249 167 0 1,090 9
ระดับต่ำ 41 306 0 0 3 358 995 137 15 0 15
รวม (งาน) 55 961 1,323 110 53 734 1,556 304 558 1,090 39
จำนวนมาตรการ/วิธีการปฏิบัติงานเพื่อควบคุมความเสี่ยง 31 422 708 110 378 10 908 304 - 1,090 523

การตรวจสอบพื้นที่การทำงาน

บริษัทฯ และกิจการในขอบเขตรายงาน มีการกำหนดความถี่ในการตรวจสอบพื้นที่การทำงานอย่างเข้มงวดโดยหน่วยงาน และคณะทำงานที่รับผิดชอบ สามารถจำแนกความถี่ในการตรวจสอบตามระดับความเสี่ยงของงานและมาตรการที่กำหนดไว้ ดังนี้

ระดับความเสี่ยง ความถี่ในการตรวจสอบพื้นที่การทำงาน
ผู้ควบคุมงาน จป.หัวหน้างาน จป.วิชาชีพ คณะกรรมการความปลอดภัยฯ
สูง ตลอดเวลา ทุกวัน ทุกวัน ทุกเดือน/ตามวาระงาน
ปานกลาง ทุก 1 ชั่วโมง ทุกวัน ทุกวัน ทุกเดือน/ตามวาระงาน
ยอมรับได้ ตามวาระงาน
ระดับต่ำ

การดำเนินงานปี 2567

บริษัทฯ และกิจการในขอบเขตรายงาน ได้ทำการตรวจสอบวิธีปฏิบัติและมาตรการที่นำมาใช้ในการควบคุมความเสี่ยงทั้งจากผู้ปฏิบัติงาน เครื่องจักร/อุปกรณ์การทำงาน สภาพแวดล้อมการทำงาน และการใช้มาตรการการสั่งหยุดงาน (Stop Work) ของกิจกรรมต่าง ๆ สรุปผลได้ดังนี้

ปัจจัยที่ควบคุม วิธีปฏิบัติ/มาตรการ จำนวนงานที่ตรวจสอบ ผลการดำเนินงาน/การปรับปรุงแก้ไข
งานทั้งหมด งานที่ผ่านการตรวจสอบ งานที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ
ผู้ปฏิบัติงาน
  • กำหนดคุณสมบัติของผู้ปฏิบัติงานให้เหมาะสมกับงาน
  • อบรมความปลอดภัยในการทำงาน การสอนงาน และการฝึกอบรมเฉพาะงาน
  • ตรวจสอบความพร้อมของร่างกายก่อนการเข้าปฏิบัติงาน
  • สังเกตการทำงานขณะปฏิบัติงาน โดยต้องปฏิบัติตามกฎความปลอดภัย กฎเฉพาะงาน/เฉพาะพื้นที่
9,591 9,574 17

ผลการดำเนินงาน

  • ผู้ปฏิบัติงานมีคุณสมบัติและความพร้อมตามเงื่อนไขที่กำหนด
  • ผู้ปฏิบัติงานได้รับการฝึกอบรมครบถ้วน

การปรับปรุงแก้ไข

  • กรณีที่พบการสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัย เช่น นั่งร้านไม่ได้มาตรฐาน การไม่สวมใส่ PPE ได้มีการสั่งแก้ไขให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะสามารถปฏิบัติงานต่อได้
เครื่องมือ/เครื่องจักร/อุปกรณ์
  • เลือกซื้อและใช้เครื่องจักร/อุปกรณ์/เครื่องมือที่มีมาตรฐานความปลอดภัยในการผลิต
  • ตรวจสอบ หรือทดสอบความปลอดภัยตามกฎหมาย
  • ตรวจสอบความปลอดภัยก่อนใช้งานหรือตามวาระ
  • บำรุงรักษาเครื่องจักร/อุปกรณ์ตามแผนที่กำหนด
11,927 11,927 0

ผลการดำเนินงาน

  • เครื่องมือ/เครื่องจักร/อุปกรณ์ ได้รับการตรวจสอบตามมาตรฐานความปลอกภัยและพร้อมใช้งาน
สภาพแวดล้อมในการทำงาน
  • ประเมิน/ตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อนเริ่มปฏิบัติงาน และปรับปรุงให้เหมาะสมกับการทำงานก่อนอนุญาตให้เข้าปฏิบัติงาน
  • สำหรับงานที่มีความเสี่ยงปานกลาง-สูง ให้ทำการตรวจวัด/ประเมินสภาพแวดล้อมในการทำงานขณะปฏิบัติงาน
  • จัดสถานที่ปฏิบัติงาน/สภาพแวดล้อมภายหลังเสร็จสิ้นงานให้เรียบร้อย
2,339 2,338 1

ผลการดำเนินงาน

  • สภาพแวดล้อมผ่านการตรวจสอบตามข้อกำหมดและกฎหมาย
  • ปรับปรุง/แก้ไขสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้มาตรฐานก่อนอนุญาตให้เข้าปฏิบัติงาน

การปรับปรุงแก้ไข

  • กรณีการเข้าทำงานในพื้นที่อับอากาศให้ติดตั้งพัดลมระบายอากาศและเปิดใช้งานทุกครั้งที่เข้าปฏิบัติงานในที่อับอากาศตลอดเวลา
การสั่งหยุดงาน (Stop Work) สามารถดำเนินการได้ในกรณีต่อไปนี้
  • พบการกระทำ หรือสภาพกาณ์ที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
  • พบการเปลี่ยนแปลงของขอบเขต ขั้นตอนการปฏิบัติงาน หรือสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป
  • สถานการณ์ฉุกเฉิน
ปี 2567 มีการสั่งหยุดงานทั้งหมด 11 งาน
  • เมื่อมีการสั่งให้หยุดงาน จะมีการแจ้งผู้ควบคุมงานให้แก้ไข/ปรับปรุงปัจจัยต่าง ๆ ให้พร้อมปฏิบัติงาน ก่อนอนุญาตให้เข้าปฏิบัติงานอีกครั้ง พร้อมทั้งเพิ่มแนวทางการปฏิบัติเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ
การจัดการเหตุฉุกเฉิน

บริษัทฯ และโรงไฟฟ้าทุกแห่งมีการจัดทำและทบทวนรายละเอียดของแผนรองรับเหตุฉุกเฉินในแต่ละสถานการณ์ที่สอดคล้องกับบริบทการดำเนินงาน และความเสี่ยงที่อาจเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นของแต่ละแห่งไว้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องตามระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย หรือมาตรฐาน ISO 45001 ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ กำหนดให้มีการฝึกซ้อมแผนรองรับเหตุฉุกเฉินเป็นประจำ และเหมาะสมกับขั้นตอนหรือความซับซ้อนของการจัดการเหตุการณ์ตามที่กำหนดไว้ในแผนรองรับเหตุฉุกเฉิน เช่น แผนรองรับเหตุฉุกเฉินระดับ 1 หรือระดับต้นที่หน่วยงานสามารถระงับเหตุได้เอง จะฝึกซ้อมในทุกพื้นที่ปฏิบัติงานเป็นประจำ ส่วนแผนรองรับเหตุฉุกเฉินระดับ 3 ที่ต้องจัดการเหตุร่วมกับหน่วยงานภายนอกจะทำการฝึกซ้อมปีละ 1 ครั้ง เป็นต้น เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องมีความรู้ความเข้าใจ และสามารถจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็วที่สุด ซึ่งช่วยลดโอกาสที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง ลดโอกาสการบาดเจ็บ และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นให้มากที่สุด

สถิติการฝึกซ้อมแผนรองรับเหตุฉุกเฉิน ปี 2567
สถานการณ์ฉุกเฉินที่ฝึกซ้อม จำนวนครั้งในการฝึกซ้อม
RATCH RGCO RCO RER NNEG BPC RPE Group SKB RAC AWC Asahan-1 HKP SLT
ไฟไหม้และระเบิด ระดับที่ 1 - 30 - - 6 5 7 - - - - 8 1
ไฟไหม้และระเบิด ระดับที่ 2 12 1 - 1 1 1 2 1 1 1 1 1 -
ไฟไหม้และระเบิด ระดับที่ 3 1 1 1 - - - 2 - - - - - -
ก๊าซรั่วไหล - 4 - - 2 1 3 - - - - 1 -
น้ำมันรั่วไหล - 2 - - 3 1 2 - - 1 1 2 -
สารเคมีรั่วไหล - 4 1 1 3 3 2 - - 1 1 3 -
รังสีรั่วไหล - 1 - - - - - - - - - - -
การขนย้ายของเสีย/ สิ่งปฏิกูล - - - - - - 1 - - - - - -
หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด - - - - - - 1 - - - - - -
หม้อน้ำระเบิด - - - - - - 1 - - - - - -
ภัยธรรมชาติ (พายุ/ น้ำท่วม/ แผ่นดินไหว/ไฟป่า) - 1 - - - - 5 - - 1 1 - 1
ลิฟต์ค้าง 12 1 - - - - - - - - - - -
การประท้วงของชุมชนรอบโรงไฟฟ้า - - - - - - - - - - - - 1
ท่อแรงดันแตก - 1 - - - - - - - - - - -
คุณภาพอากาศเกินมาตรฐาน - 1 - - - - - - - - - 7 -
การช่วยชีวิตและปฐมพยาบาล - - - - - 1 - - - - - 1 -
โรงไฟฟ้าสูญเสียแหล่งจ่ายไฟทั้งหมด (Plant blackout) - - - - - - - - - - - 3 -
สถิติการเกิดเหตุฉุกเฉิน ในปี 2657

บริษัทฯ และกิจการที่อยู่ในขอบเขตการรายงานจำนวน 14 แห่ง มี 5 แห่ง ที่ประสบเหตุฉุกเฉินแต่สามารถควบคุมได้ตามแผนรองรับเหตุฉุกเฉิน จึงไม่มีผลกระทบต่อผู้ปฏิบัติงาน นอกจากนี้ ยังได้ทำการสอบสวนหาสาเหตุ ทบทวนการประเมินความเสี่ยงของงาน รวมถึงปรับปรุงมาตรการที่ใช้ให้สอดรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ

เหตุการณ์ฉุกเฉิน มาตรการป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
ไฟไหม้ จำนวน 3 ครั้ง
  1. เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ
  2. กำหนดแผนการตรวจสอบและซ่อมบำรุงเครื่องจักร/อุปกรณ์ในกระบวนการผลิตประจำปี เพื่อตรวจสอบความพร้อมใช้งานของอุปกรณ์
กระแสไฟฟ้ารั่วไหล จำนวน 1 ครั้ง
  1. จัดทำการวิเคราะห์ความปลอดภัยในการทำงาน (JSA) และวิธีการทำงาน (Method Statement)
  2. พิจารณากำหนดจำนวนงานให้สอดคล้องกับจำนวนผู้ตรวจสอบที่ต้องควบคุมงาน เพื่อให้สามารถกำกับดูแลงานได้อย่างทั่วถึง
น้ำมันรั่วไหล จำนวน 3 ครั้ง
  1. ใช้สายท่อน้ำมัน และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องที่มีคุณภาพและได้รับการรับรองมาตรฐาน
  2. เพิ่มจำนวนความถี่ในการจดบันทึก Log sheet จากเดิม 2 รอบต่อกะการทำงาน เป็น 3 รอบต่อกะการทำงาน (ทุก 3 ชั่วโมง)
  3. เพิ่มจำนวนจุดจดบันทึกให้ครอบคลุมพื้นที่การทำงาน เพื่อตรวจสอบพื้นที่การทำงานโดยรอบให้ครบถ้วน
การจัดการภาวะวิกฤติ

ในสถานการณ์จริง แม้แต่ละหน่วยงานจะมีการบริหารจัดการและมาตรการควบคุมความเสี่ยง และการปฏิบัติงานเข้มงวดมากเพียงใด แต่อุบัติเหตุก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ทุกขณะ บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญสูงสุดกับการเตรียมความพร้อมและการจัดการกับเหตุฉุกเฉินที่อาจรุนแรงจนเข้าสู่ภาวะวิกฤติ เพื่อปกป้องผู้ปฏิบัติงาน ผู้มีส่วนได้เสีย และสร้างความต่อเนื่องของธุรกิจไม่ให้หยุดชะงักไปด้วย บริษัทฯ ได้จัดทำแผนจัดการภาวะวิกฤต และแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan: BCP) เพื่อให้องค์กรสามารถบริหารจัดการเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ และลดผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียให้เหลือน้อยที่สุด

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ทำการฝึกซ้อมแผนและทบทวนความเหมาะสมของแผนงานอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือทันทีที่มีปัจจัยเสี่ยงหรือสถานการณ์ใหม่เกิดขึ้น รวมถึงการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ ความตระหนัก และการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกระดับ ผ่านการฝึกซ้อมและการปฏิบัติตามแผนอย่างต่อเนื่อง

ในปี 2568 บริษัทฯ กำหนดแผนงานให้มีการทบทวนแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ แผนจัดการภาวะวิกฤติ และแผนการสื่อสารภาวะวิกฤติ รวมทั้งการบูรณาการการฝึกซ้อมแผนทั้งหมดไปพร้อมกันด้วย

การส่งเสริมความตระหนักด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้ปฏิบัติงานทุกคน นอกเหนือจากมาตรการต่างๆ ที่กำหนดไว้แล้ว ยังมุ่งเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจการดูแลความปลอดภัยและสุขอนามัยให้กับบุคลากรทุกระดับ เพื่อทุกคนรู้จักวิธีในการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดจากการทำงานได้ด้วยตนเอง โดยทุกปีจะมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้ในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ กิจกรรมวันความปลอดภัย (Safety Day) สื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ อีเมลแจ้งเตือนเหตุ การตรวจความปลอดภัย รวมถึงการจัดอบรมเพิ่มพูนความรู้ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก (Safety First) โดยพนักงานทุกคนสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีสุขภาพดี

กิจกรรมส่งเสริมความรู้และความตระหนักด้านความปลอดภัย ปี 2657

กิจกรรม
อาคารสำนักงาน RATCH Group
  • การฝึกซ้อมการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุลิฟต์ค้าง และการฝึกซ้อมดับเพลิงในยามวิกาล
  • การจัดการสภาพแวดล้อมในการทำงาน ผ่านกิจกรรม 5ส เพื่อสะสาง จัดเก็บ และลดปริมาณสิ่งของที่ไม่จำเป็นและเป็นเชื้อเพลิงให้น้อยลง และไม่ให้กีดขวางเส้นทางอพยพหนีไฟ ซึ่งในปี 2567 มีการตรวจประเมิน 5ส โดยคณะทำงานฯ ไตรมาสละ 1 ครั้ง
  • กิจกรรมการตรวจความปลอดภัยโดยคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อตรวจสอบสภาพการทำงานและสภาพแวดล้อมในการทำงานของพนักงาน และคู่ค้า/ผู้รับเหมาให้ได้มาตรฐาน
  • การประชาสัมพันธ์ความรู้ด้านความปลอดภัย เช่น อันตรายที่อาจเกิดในสำนักงาน การเลือกใช้ปลั๊กไฟ เป็นต้น
โรงไฟฟ้าราชบุรี (RGCO)
  • จัดงาน Safety Day 2024 “SAFETY & ENERGY GOOD LIFE” เพื่อกระตุ้นจิตสำนึก ด้านความปลอดภัยและอนุรักษ์พลังงานให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในโรงไฟฟ้า ผ่านกิจกรรมบรรยาย หัวข้อ “การสร้างจิตสำนึกอนุรักษ์พลังงานและความปลอดภัยในการทำงาน” กิจกรรมประกวดคลิปวิดีโอ Near Miss หัวข้อ “เฉียดแล้วไม่เฉย” และกิจกรรมประกวดคำขวัญด้านความปลอดภัย มีผู้เข้าร่วมงาน 427 คน ผลการประเมินความพึงพอใจระดับดีมากร้อยละ 91.83
  • จัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัย อบรม “ขับขี่ปลอดภัย ใส่ใจวินัยจราจร” โดยทีมวิทยากรจาก สภ. เมืองราชบุรี มีผู้เข้ารับการอบรม รวม 60 คน ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้เข้ารับการอบรมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ร้อยละ 93.60
โรงไฟฟ้าเบิกไพร โคเจนเนอเรชั่น (BPC)
จัดทำโครงการรณรงค์สถิติอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ เพื่อส่งเสริมให้พนักงานตระหนักและใส่ใจในความปลอดภัยจากการทำงาน โดยไม่เกิดอุบัติเหตุ และจัดให้มีกิจกรรมด้านความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม ในหัวข้อ “Zero Accident & Good Environmental Management” ซึ่งบริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายสถิติชั่วโมงการทำงานที่ปลอดภัยตั้งแต่เริ่มเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2562 จนถึงปัจจุบันที่กำหนดไว้ 850,000 ชั่วโมงได้สำเร็จ
โรงไฟฟ้าราช โคเจนเนอเรชั่น (รวมส่วนขยาย) (RCO)
จัดกิจกรรมวัน Safety Day 2024 “ค้นหาอันตราย สไตล์ RCO ปิดจุดเสี่ยง มุ่งสู่ ZERO Unsafe Condition” เพื่อให้ความรู้ด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ผ่านการอบรมหลักสูตร “การค้นหาอันตราย และประเมินความเสี่ยง” รวมทั้งกิจกรรมประกวดโปสเตอร์และคำขวัญด้านความปลอดภัย
โรงผลิตไฟฟ้านวนคร (NNEG)
  • โครงการรณรงค์สถิติอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ ต่อเนื่องจากปี 2566 โดยเพิ่มเป้าหมายชั่วโมงการทำงานที่ไม่มีอุบัติเหตุเป็น 2,300,000 ชั่วโมง และส่งเสริมความรู้และความตระหนักในการปฏิบัติงานให้เกิดความปลอดภัยและไม่มีอุบัติเหตุ
  • จัดกิจกรรม “NNEG SAFETY & ENVIRONMENT DAY” ประจำปี 2567 เพื่อสร้างจิตสำนึกและตระหนักรู้เรื่องความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมแก่ผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงาน ผ่านซุ้มกิจกรรมให้ความรู้ เช่น กิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงาน การใช้งานอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) การตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม โรคอันเนื่องมาจากการทำงานและสุขภาพจิตในองค์กร และการทำ CPR ขั้นพื้นฐาน เป็นต้น พร้อมทั้งกิจกรรมการบรรยายหัวข้อ “การดูแลสุขภาพจิตในองค์กร และการจัดการความเครียด” โดยศูนย์สุขภาพจิตที่ 4 จังหวัดปทุมธานี
โรงไฟฟ้าราช เอ็นเนอร์จี ระยอง (RER)
จัดกิจกรรม Safety Day และ Saving Energy 2024 เพื่อปลูกฝังให้พนักงานทุกคนมีจิตสำนึกและความรู้ความเข้าใจในเรื่องของความปลอดภัยและการประหยัดพลังงาน ตลอดจนเล็งเห็นถึงความสำคัญในการร่วมมือร่วมใจ ลดการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานอันเป็นการขับเคลื่อนงานความปลอดภัยขององค์กร
โรงไฟฟ้าราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี (RPE)
จัดทำโครงการ “ข้อเสนอแนะ ด้านความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และอนุรักษ์พลังงาน” เพื่อให้พนักงานและผู้รับเหมาทุกคนได้มีส่วนร่วมและจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัย ความปลอดภัย และการอนุรักษ์พลังงาน โดยร่วมกันค้นหาจุดเสี่ยงจากสภาพการณ์ที่ไม่ปลอดภัยหรือการปฏิบัติงานที่ไม่เหมาะสม จำนวนข้อเสนอแนะรวม 16 เรื่อง
โรงไฟฟ้าสหโคเจน กรีน (SGN)
จัดทำโครงการขับขี่รถบรรทุกและรถตักให้ปลอดภัย เพื่อให้ผู้รับเหมามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการขับขี่รถบรรทุกที่ถูกต้อง เพื่อลดอุบัติเหตุจากการจราจรของรถบรรทุกและรถตักในพื้นที่โกดังและลานกองเชื้อเพลิง รวมทั้งปรับปรุงพื้นที่การปฏิบัติงานให้มีมาตรฐานความปลอดภัยด้านการจราจรมากยิ่งขึ้น เช่น การทาสีโครงสร้างอาคารในพื้นที่ การติดป้ายเตือนให้ระวังอันตราย การทาสีฟุตบาท เป็นต้น
โรงไฟฟ้าสหโคเจนกรีน ฟอเรสท์ (SGF)
จัดให้มีนิทรรศการความปลอดภัย (Safety Envi day) ประจำปี 2567 แบ่งปันความรู้ในกิจกรรม Safety talk เพื่อสร้างความรู้และจิตสำนึกด้านความปลอดภัยให้กับพนักงานและผู้รับเหมา ให้เกิดเป็นวัฒนธรรมความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
โรงไฟฟ้าหินกอง (HKP)
  • โครงการรณรงค์สถิติอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ ตั้งเป้าหมายโครงการ 150,000 ชั่วโมงการทำงานที่ไม่มีอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงานเกิดขึ้น โดยสร้างความรู้ความเข้าใจและความตระหนักในการปฏิบัติงานให้เกิดความปลอดภัย ผ่านการประชาสัมพันธ์ข่าวสารความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมในระหว่างก่อนการประชุมประจำทุกวัน
  • แบ่งปันความรู้ในกิจกรรม Safety Talk และการอบรมให้ความรู้ สร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัย เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่ดีในการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยให้กับพนักงานและผู้รับเหมา
  • ประชาสัมพันธ์ความรู้ทางด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมรวมถึงสุขภาพ
โรงไฟฟ้าสงขลาไบโอ แมส (SKB)
  • จัดอบรมหลักสูตร “การฝึกซ้อมดับเพลิง และอพยพหนีไฟประจำปี 2567” เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับเหตุฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งอบรมสร้างจิตสำนึกด้านการเตรียมพร้อมทางสภาพร่างกายและจิตใจของพนักงาน ซึ่งกิจกรรมนี้มีผู้เข้ารับการอบรม ทั้งหมด 77 คน ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้เข้ารับการอบรมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ร้อยละ 100
  • จัดกิจกรรม Safety Energy Day 2024 เพื่อสร้างจิตสำนึก และตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยและการอนุรักษ์พลังงาน โดยจัดกิจกรรมสันทนาการและวิชาการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย การจัดการสิ่งแวดล้อม และการอนุรักษ์พลังงาน
การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร

กลุ่มบริษัทฯ มุ่งเน้นให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนตระหนักถึงการทำงานอย่างปลอดภัยในทุกสถานการณ์ พร้อมทั้งมีบทบาทในการแนะนำและตรวจตราสภาพการณ์ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรือความไม่ปลอดภัย ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และจิตสำนึกด้านความปลอดภัย ผ่านการอบรมที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานได้รับความรู้ที่ถูกต้อง ครบถ้วน และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง

หัวข้ออบรม จำนวนผู้เข้าร่วมอบรม (คน) ร้อยละของผู้เข้าอบรม
RATCH RGCO RCO RER NNEG BPC RPE Group SKB RAC RL AWC Asahan-1 HKP SLT ผู้เข้าอบรมทั้งหมด (คน) ผู้ปฏิบัติงาน คู่ค้า/ผู้รับเหมา
การปฐมนิเทศด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยก่อนเริ่มปฏิบัติงานและพนักงานใหม่ 31 1,338 2,791 541 1,391 676 2,413 564 17 6 - - 2,801 - 12,569 28.23 71.77
ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่น ผู้ปฏิบัติงานที่เป็นคณะกรรมการ ลูกจ้าง 2 2 - 4 1 2 1 - - 81 - - 1 - 94 97.87 2.13
บทบาทและหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับหัวหน้างาน และระดับบริหาร - 15 2 - 1 1 14 1 - 3 - - 9 10 56 80.36 19.64
การดับเพลิง เช่น การดับเพลิงขั้นต้น การเฝ้าระวังไฟ การใช้อุปกรณ์ดับเพลิง และการจัดทำ Pre Fire Plan เป็นต้น - 54 22 74 2 60 39 77 - - 17 2 3 60 410 72.44 27.56
การใช้เครื่องมือ และอุปกรณ์ เช่น ปั้นจั่นอยู่กับที่และเคลื่อนที่หม้อน้ำ กังหันไอน้ำ เป็นต้น - 97 5 13 19 12 50 - - 246 - 2 7 - 451 96.9 3.1
ผู้ปฏิบัติงานและผู้ควบคุมมลพิษทางอากาศ น้ำ และกากอุตสาหกรรม - 27 - 1 - - - - - - - - 7 - 35 100 -
การป้องกันอันตรายและการปฐมพยาบาลจากรังสี สารเคมี ไฟฟ้า วัตถุระเบิด และการใช้ PPE - 193 28 105 1 38 172 1 - 150 - 2 5 102 797 84.32 15.68
การบ่งชี้และการประเมินประเด็นความเสี่ยง - - - - - - - 4 - - - - - - 4 100 -
การค้นหา สอบสวน วิเคราะห์และการรายงานอุบัติเหตุ - 27 - - - - - - - - - - - - 27 100 -
ข้อกำหนด ISO 9001/14001 และ 45001 - 9 - - - - - 8 - 169 - - 24 - 210 100 -
ความปลอดภัยในการขับขี่ยานพาหนะ รถฟอล์คลิฟต์ รถตักและรถบรรทุก - 6 - - - 2 24 - - - - 1 6 - 39 92.31 7.69
ผู้ปฏิบัติงานในสถานที่ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติและสถานที่เก็บรักษาน้ำมัน - - - 7 5 2 - - - - - - 10 - 24 91.67 8.33
ความปลอดภัยการทำงานในที่อับอากาศ ที่สูง และนักประดา - 23 5 3 8 - 21 - - - - - - - 60 100 -
ความปลอดภัยในการทำงานโรงไฟฟ้าถ่านหิน - - - - - - - - - 429 - - - - 429 100 -
การสร้างเสริมความรู้และจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในการทำงาน - 249 - - - - - - - 131 - - 3 34 417 91.85 8.15
ออฟฟิศซินโดรม และโรคจากการประกอบอาชีพ - 3 - - - 2 120 - - - - - - - 125 100 -