กลยุทธ์การพัฒนาความยั่งยืน

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

• ดำเนินการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2593

• ลดความเข้มข้นปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 15% เมื่อเทียบกับปีฐาน 2558
• เพิ่มกำลังการผลิตพลังงานทดแทนไม่น้อยกว่า 30%

• จัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจกทั้งขอบเขตที่ 1 2 และ 3 ขอบเขตครอบคลุมโรงไฟฟ้า IPP และ SPP ในประเทศไทยที่บริษัทฯ มีอำนาจบริหารทั้งหมด
• สัดส่วนกำลังการผลิตพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเป็น 27.48% ของกำลังการผลิตรวม ซึ่งบรรลุเป้าหมายของบริษัทฯ ที่กำหนดไว้ 25%
• ปริมาณคาร์บอนเครดิตที่บริษัทฯ ได้รับสะสมในปี 2567 รวม 11,381.05 tCO₂e

ความผูกพันกับชุมชน

• ดำเนินกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนและสังคมในวงกว้างระดับประเทศและตอบสนองเป้าหมาย SDGs

• ผลกระทบเชิงบวกของกิจกรรมสังคมของกลุ่มบริษัทฯ ที่สามารถวัดผลได้ด้วยวิธี SROI
• ผลลัพธ์ตอบสนองเป้าหมาย SDGs

• ประเมินผลตอบแทนเชิงสังคม (Social Return of Investment: SROI) ของโครงการการศึกษาเสริมทักษะสร้างอาชีพ สปป.ลาว ซึ่งมีค่าอยู่ที่ 1.36:1.00 ซึ่งตอบรับเป้าหมาย SDG ที่ 4 การศึกษาที่มีคุณภาพ
• ดำเนินกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมที่ตอบสนองเป้าหมาย SDGs ได้แก่
  • เป้าหมายที่ 3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ผ่านกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พื้นที่รอบโรงไฟฟ้าราชบุรี ร่วมกับสำนักการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
  • เป้าหมายที่ 13 การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผ่านโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน และกิจกรรมการปลูกและส่งเสริมการอนุรักษ์ป่าเพื่อคาร์บอนเครดิต
  • เป้าหมายที่ 14 ทรัพยากรทางทะเล ผ่านโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อคาร์บอนเครดิตร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
  • เป้าหมายที่ 15 ระบบนิเวศบนบก ผ่านโครงการปลูกป่าเพื่อคาร์บอนเครดิตร่วมกับกรมป่าไม้ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ และมูลนิธิป่าชุมชน กรมป่าไม้มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ และมูลนิธิป่าชุมชน กรมป่าไม้

สิทธิมนุษยชน

• นำกระบวนการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านมาใช้ในการควบคุมและป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน

• ประเมินความเสี่ยงและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนทุกกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย ทุก 3 ปี
• การละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นศูนย์

• ทบทวนนโยบายสิทธิมนุษยชนของบริษัทฯ
• สื่อสารและส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายสิทธิมนุษยชนให้พนักงานของกลุ่มบริษัทฯ ทั้งในประเทศไทย และ สปป.ลาว รวม 7 แห่ง
• อบรมให้ความรู้และสร้างความตระหนักด้านสิทธิมนุษยชนแก่พนักงานของบริษัทฯ
• ไม่มีประเด็นการละเมิดด้านสิทธิมนุษยชน

การบริหารห่วงโซ่อุปทาน

• พัฒนากระบวนการบริหารห่วงโซ่อุปทานยั่งยืน เพื่อเป็นกลไกในการควบคุมและป้องกันความเสี่ยงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในห่วงโซ่อุปทานของบริษัทฯ

• ประเมินความเสี่ยงด้าน ESG คู่ค้าทุกราย 100%
• ตรวจประเมินคู่ค้าสำคัญ (Significant Supplier) ทุกราย 100%

• ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ และบริษัทที่มีอำนาจบริหาร (Operational Control) เข้าร่วมการอบรมและมีความเข้าใจเกี่ยวกับหลักปฏิบัติการจัดซื้อ-จัดจ้างยั่งยืน ครบ 100%
• นำประเด็นความเสี่ยงที่สำคัญทั้ง 5 ประเด็น ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและก๊าซเรือนกระจก สิทธิมนุษยชน ความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของแรงงาน การต่อต้านคอร์รัปชัน และการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล/ภัยคุกคามทางไซเบอร์ มาใช้ในการคัดกรองคู่ค้า
• ตรวจประเมินการดำเนินงานด้าน ESG ของคู่ค้าจำนวน 148 ราย

ความสัมพันธ์กับลูกค้า

• พัฒนากระบวนการและเครื่องมือการประเมินความพึงพอใจของลูกค้าที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน

• ความพึงพอใจลูกค้าไม่น้อยกว่า 90%

• ติดตามผลการประเมินความพึงพอใจลูกค้าของบริษัทในเครือ และเปิดเผยผลการประเมิน
• สื่อสารและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าผ่านช่องทางและกิจกรรมต่าง ๆ เป็นประจำ พร้อมปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง