ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจไฟฟ้า ภาคระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานรวมไปถึงภาคธุรกิจการให้บริการต่าง ๆ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับผู้มีส่วนได้เสียที่หลากหลาย การให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการผู้มีส่วนได้เสียให้ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจนั้น จึงถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งที่จะส่งผลให้การดำเนินธุรกิจมุ่งไปสู่ความสำเร็จและส่งผลให้องค์กรมีการเติบโตและพัฒนาได้อย่างยั่งยืน

บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงและให้ความสำคัญกับการบริหารห่วงโซ่อุปทาน โดยได้กำหนดเป็นแนวปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียไว้ในจรรยาบรรณของบริษัทฯ ครอบคลุมตั้งแต่ผู้ถือหุ้น พนักงาน เจ้าหนี้ พันธมิตรธุรกิจ คู่ค้าหรือผู้จัดหาสินค้า คู่แข่งทางธุรกิจ ภาครัฐ ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม

บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญในการกำกับดูแลการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน โดยกำหนดหลักปฏิบัติในไว้จรรยาบรรณบริษัทฯ และคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบ และประธานกรรมการลงนามประกาศใช้จรรยาบรรณบริษัทฯ โดยมีคณะกรรมการธรรมาภิบาลและความยั่งยืนทำหน้าที่กำกับและติดตามการดำเนินงานการบริหารห่วงโซ่อุปทานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทำการจัดทำจรรยาบรรณคู่ค้า ที่เป็นแนวปฏิบัติในการบริหารจัดการคู่ค้าในห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงพัฒนาและปรับปรุงกระบวกนการคัดเลือกคู่ค้าโดยมีการนำประเด็นด้าน ESG เข้ามาประเมินความเสี่ยงของคู่ค้าด้วย โดยได้มีการรายงานผลการดำเนินการให้ฝ่ายบริหารและคณะกรรมการธรรมาภิบาลและความยั่งยืน และคณะกรรมการบริษัทฯ รับทราบอย่างสม่ำเสมอ และมีการเปิดเผยผลการดำเนินงานเป็นประจำทุกปี

ห่วงโซ่อุปทานตามกระบวนการดำเนินธุรกิจประกอบด้วย 4 กระบวนการหลัก คือ 1) การพัฒนาโครงการ 2) การก่อสร้างโครงการ 3) การผลิตและให้บริการ 4) การหยุดกิจการ โดยมีปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวแปรความสำเร็จทางธุรกิจ คือ พันธมิตรธุรกิจ คู่ค้า ลูกค้า ชุมชน และสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ จึงได้กำหนดแนวทางการบริหารผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มดังกล่าวไว้ดังนี้

ข้อมูลเพิ่มเติม: จรรยาบรรณบริษัทฯ
เป้าหมายด้านการบริหารห่วงโซ่อุปทาน
แนวทางการบริหารจัดการ

บริษัทฯ ประกาศใช้จรรยาบรรณคู่ค้า (ปรับปรุงครั้งที่ 1) พ.ศ. 2566 ที่ได้ผนวกหลักการซัปพลายเชนยั่งยืน (Supply Chain Sustainability) ของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact: UNGC) เพื่อสร้างความมั่นใจว่าคู่ค้าของบริษัทฯ มีการปฏิบัติสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของบริษัทฯ เป็นไปตามหลักจริยธรรมทางธุรกิจ การดูแลสิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคม สนับสนุนความมุ่งหมายของบริษัทฯ ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคมที่เท่าเทียม ยืดหยุ่น และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมดียิ่งขึ้น ภายใต้จรรยาบรรณคู่ค้า ได้กำหนดให้มีการทบทวนเป็นประจำทุกปี ซึ่งในปี 2567 บริษัทฯได้ดำเนินการทบทวนแล้วพบว่า จรรยาบรรณคู่ค้าฉบับดังกล่าว ยังคงมีเนื้อหาที่สอดคล้องตามหลักปฏิบัติสากล และครอบคลุมประเด็นที่ผู้มีส่วนได้เสียในธุรกิจผลิตไฟฟ้าให้ความสำคัญครบถ้วน ดังนี้

ประเด็นสำคัญที่ระบุในจรรยาบรรณคู่ค้า
1. สิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติต่อแรงงาน
1.1 การเคารพสิทธิมนุษยชน:
เคารพในหลักการสิทธิมนุษยชนและจะต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติจากความแตกต่าง
1.8 เสรีภาพในการสมาคมและสิทธิในการเจรจาต่อรอง:
เคารพเสรีภาพของแรงงานในการจัดตั้ง รวมกลุ่ม และเข้าร่วมสหภาพแรงงาน และควรได้สิทธิการมีส่วนร่วมในการเจรจาต่อรอง
1.2 การบังคับใช้แรงงาน:
ห้ามมีการใช้แรงงานบังคับ แรงงานผูกมัด หรือแรงงานที่ไม่สมัครใจในรูปแบบใด ๆ และการค้ามนุษย์
1.9 การป้องกันผลกระทบต่อชุมชนและสังคม:
ป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดกับชุมชนและสังคม รวมถึงส่งเสริม และสนับสนุนการจ้างแรงงานในท้องถิ่น
1.3 แรงงานเด็ก:
ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นและกฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องการจ้างงานตามอายุขั้นต่ำ
1.10 การบริหารคู่ธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานของคู่ค้า:
ให้ความสำคัญในการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายของคู่ค้าของตนหรือผู้รับเหมาช่วง หรือพันธมิตรทางธุรกิจของตน พร้อมประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
1.4 ค่าจ้างและสิทธิประโยชน์:
ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน ในเรื่องการจ่ายค่าตอบแทน สวัสดิการและผลประโยชน์ เทียบเคียงกับมาตรฐานแรงงานประเภทเดียวกัน
1.11 ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
  • 1.11.1 การดูแลสภาพแวดล้อมการทำงานให้มีความปลอดภัย:
    จัดสถานที่ทำงานให้มีความปลอดภัย และถูกสุขอนามัยเป็นไปตามมาตรฐาน มีมาตรการป้องกัน เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุอันตราย ลดการเจ็บป่วยจากการทำงานให้เหลือน้อยที่สุด
    1.11.2 การจัดการความปลอดภัย:
    ปฏิบัติตามกฎหมายด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย รวมทั้งมาตรฐานที่อุตสาหกรรมยอมรับ ไม่เพิกเฉยต่อการกระทำที่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัย และสุขอนามัยของแรงงาน
    1.11.3 การเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน:
    ประเมินความเสี่ยง และระบุเหตุการณ์ฉุกเฉินที่มีโอกาสเกิดขึ้น พร้อมทั้งมีมาตรการป้องกัน ลดผลกระทบ และกระบวนการแก้ไข
1.5 ระยะเวลาในการทำงาน:
ปฏิบัติตามข้อบังคับของกฎหมายแรงงานเกี่ยวกับชั่วโมงการทำงาน การทำงานล่วงเวลา วันหยุด และวันลาตามสิทธิที่พึงได้
1.6 การเลือกปฏิบัติและการล่วงละเมิด:
ปฏิบัติต่อบุคคลทุกคนอย่างเท่าเทียม โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ และต้องไม่ให้มีการล่วงละเมิด
1.7 การปฏิบัติต่อแรงงานหญิง:
ให้ความคุ้มครองแรงงานหญิงไม่ให้ทำงานในลักษณะที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัย
2. สิ่งแวดล้อม
2.1 การปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการใช้พลังงาน:
ดำเนินการเชิงรุกเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
2.4 การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ:
ใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด c]tนำหลักปฏิบัติที่ดีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร และลดการเกิดของเสีย
2.2 การป้องกันมลพิษ และการจัดการของเสีย:
ดำเนินมาตรการเพื่อลดมลภาวะ และการปล่อยสสารอันตรายสู่สิ่งแวดล้อม
2.5 ความหลากหลายทางชีวภาพ:
ปกป้องและรักษาระบบนิเวศ หลีกเลี่ยงกิจกรรมใด ๆ ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายหรือทำลายพื้นที่ชุ่มน้ำ ป่า หรือระบบนิเวศที่สำคัญ
2.3 การจัดการวัสดุอันตราย และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์:
มีมาตรการควบคุมการใช้วัตถุและสารเคมีอันตราย มีการจัดเก็บ จัดการ กำจัด หรือทำลายอย่างปลอดภัยตามข้อกำหนดของกฎหมาย
2.6 ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า:
ไม่ตัดไม้ทำลายป่า และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่นำไปสู่การทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า การทำให้พื้นที่เสื่อมโทรม ทั้งในการดำเนินงานของคู่ค้า และห่วงโซ่อุปทานของคู่ค้า
3. จรรยาบรรณทางธุรกิจ
3.1 การต่อต้านคอร์รัปชัน และผลประโยชน์ทับซ้อน:
ปฏิบัติตามกฎหมาย และข้อตกลงระหว่างประเทศทั้งหมดเกี่ยวกับการต่อต้านการคอร์รัปชัน
3.5 การปกป้องคุ้มครองข้อมูลความลับ และข้อมูลส่วนบุคคล:
ปกป้อง และรักษาข้อมูลทุกประเภทของบริษัทฯ ตามเงื่อนไขของสัญญา และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
3.2 การให้ของขวัญ ของกำนัล และการเลี้ยงรับรอง:
ปฏิบัติตามนโยบายการให้ และรับของขวัญ ของกำนัล และของที่ระลึกของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด
3.6 ความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์และการบริหารจัดการคุณภาพ:
ให้ความมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ และบริการของคู่ค้านั้นได้ดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
3.3 การต่อต้านการแข่งขันทางการค้า:
ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับเกี่ยวกับการต่อต้านการผูกขาด และการแข่งขันอย่างเคร่งครัด
3.7 การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา:
เคารพ และหลีกเลี่ยงการละเมิดสิทธิบัตร ทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น และของบริษัทฯ
3.4 ความโปร่งใสในธุรกิจ:
ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินงาน และห่วงโซ่อุปทานของคู่ค้าให้แก่บริษัทฯ

ทั้งนี้ คู่ค้าของบริษัทฯ ทุกรายจะต้องรับทราบและปฏิบัติตามจรรยาบรรณฉบับนี้ ซี่งถือเป็นเงื่อนไขหนึ่งในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ในปี 2567 มีคู่ค้าที่รับทราบจรรยาบรรณคู่ค้าจำนวน 271 ราย และไม่มีรายใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าดังกล่าว

ข้อมูลเพิ่มเติม: จรรยาบรรณคู่ค้า
การพัฒนาระเบียบปฏิบัติการจัดซื้อ-จัดจ้างยั่งยืน (Sustainable Procurement Protocol)

บริษัทฯ ได้พัฒนาระเบียบปฏิบัติการจัดซื้อ-จัดจ้างยั่งยืน ที่ได้ผนวกประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลไว้เป็นหลักการสำคัญหนึ่งเพื่อเป็นกรอบการปฏิบัติงานในการคัดกรองคู่ค้า การประเมินคุณสมบัติคู่ค้า การตรวจประเมินคู่ค้า และการประเมินผลการปฏิบัติงานของคู่ค้า ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่า คู่ค้าของบริษัทฯ มีการดำเนินงานที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมถึงดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม และเคารพสิทธิมนุษยชน

เพื่อให้ระเบียบดังกล่าวนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ บริษัทฯ จึงได้ผนวกระเบียบปฏิบัติการจัดซื้อ-จัดจ้างยั่งยืน ไว้ในระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและสังคม (ESMS) ของบริษัทฯ โดยระบุเป็นวิธีปฏิบัติงาน (Procedure) ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องนำไปปฏิบัติตาม พร้อมกำหนดให้มีโครงสร้างการกำกับดูแลและการตรวจประเมินติดตามผลการปฏิบัติที่ชัดเจน

ขั้นตอนการจัดซื้อ-จัดจ้างยั่งยืน

ผลการดำเนินงานปี 2567

การคัดกรองคู่ค้า (Supplier Screening)

ในกระบวนการคัดกรองคู่ค้า จะดำเนินการ 2 ขั้นตอน คือ การประเมินคุณสมบัติคู่ค้า และการประเมินความเสี่ยงคู่ค้า

  • การประเมินคุณสมบัติคู่ค้า เป็นขั้นตอนคัดกรองคู่ค้าเบื้องต้น โดยบริษัทฯ จะใช้แบบแสดงคุณสมบัติของคู่ค้า ที่ครอบคลุมประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลเป็นเครื่องมือในการพิจารณาคู่ค้าที่มีคุณสมบัติตามที่บริษัทฯประสงค์ คู่ค้าทุกรายจะต้องประเมินตนเองและนำส่งแบบแสดงคุณสมบัติให้บริษัทฯ
    ประเด็นที่ใช้ตรวจสอบคุณสมบัติคู่ค้า
    1. แหล่งที่ตั้งและรายได้ธุรกิจ 2. การรับรองที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริตและการติดสินบน
    3. การรับรองที่เกี่ยวข้องกับการจัดการด้านสภาพภูมิอากาศ 4. การดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องตามกฎหมาย
    5. การรับรองที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยอาชีวอนามัย 6. การรับหรือให้ของขวัญ
    7. การจัดการสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ 8. นโยบายการต่อต้านคอร์รัปชัน
    9. การรับรองที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน 10. การแข่งขันอย่างเป็นธรรม
    11. การละเมิดสิทธิมนุษยชนและการเลือกปฏิบัติ 12. ผลประโยชน์ร่วมระหว่างผู้เสนอราคารายอื่น
    13. การใช้แรงงานเด็ก 14. ประสบการณ์ในงานลักษณะเดียวกัน
    15. การจัดการผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและชุมชน 16. การขึ้นบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานของราชการและบริษัทเอกชน
    17.ความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม 18. การมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนทางการเมืองต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
    19. การรับรองที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางไซเบอร์และสารสนเทศ 20. ความสัมพันธ์ส่วนตัวใกล้ชิดกับผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ
  • การประเมินความเสี่ยงคู่ค้า

    ในการประเมินความเสี่ยงคู่ค้า บริษัทฯ จะพิจารณาจากประเด็นที่มีความเกี่ยวข้องทางธุรกิจ (Business Relevance) ควบคู่กับประเด็นความเสี่ยงด้าน ESG เพื่อให้ทราบว่าเป็นกลุ่มคู่ค้าสำคัญ (Critical supplier) และ/หรือคู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูง (ESG high-risk supplier) รวมถึงกลุ่มคู่ค้าที่มีนัยสำคัญ (Significant supplier)

    ประเภทคู่ค้า เกณฑ์ที่ใช้ประเมิน จำนวนคู่ค้า (ราย) ร้อยละ
    1) คู่ค้าสำคัญ (Critical supplier) ประเด็นความเกี่ยวข้องทางธุรกิจ (Business relevance) ได้แก่ มูลค่าการซื้อ-จ้าง และการหาสินค้า-บริการนั้นทดแทนไม่ได้ 216 16.81
    2) คู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูง (ESG high-risk supplier)
    • ที่ตั้งกิจการของคู่ค้า (Country-specific risks)
    • ลักษณะธุรกิจหรืออุตสาหกรรมของคู่ค้า (Sector-specific risks)
    • ประเภทสินค้าหรือบริการของคู่ค้า (Commodity-specific risks)
    • การบริหารจัดการประเด็นสำคัญด้าน ESG ประกอบด้วย
      • ประเด็นการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ/การลดก๊าซเรือนกระจก
      • อาชีวอนามัย ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ของแรงงาน
      • สิทธิมนุษยชน
      • การต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน
      • ความปลอดภัยทางไซเบอร์
    941 73.23
    สรุปรายการคู่ค้ามีนัยสำคัญ (Significant supplier)
    คู่ค้าที่มีนัยสำคัญ (Significant supplier) พิจารณาและรวบรวมคู่ค้าที่มีนัยสำคัญจากกลุ่มคู่ค้าสำคัญ (Critical supplier) และกลุ่มคู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูง (High-risk supplier) ที่อาจมีความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านการจัดซื้อ-จัดจ้าง และความเสี่ยงด้าน ESG ที่อาจสร้างผลกระทบต่อบริษัทฯ ได้ 991 77.12

    หมายเหตุ: เกณฑ์ที่ใช้ในการคัดกรองคู่ค้ากำหนดเป็นคะแนน โดยแบ่งอันตรภาคชั้นของช่วงคะแนน 1-15 เป็น 3 ช่วงชั้นน้อยสุด = 1 คะแนน และสูงสุด = 15 คะแนน

    ประเภทคู่ค้า จำนวนคู่ค้าจำแนกตามหน่วยธุรกิจ (ราย)
    RATCH RGCO RCO RER NNEG BPC SKB HKP SLT รวม %
    คู่ค้าสำคัญ 11 29 19 37 29 32 13 43 3 216 16.81
    คู่ค้าความเสี่ยงสูง 96 53 127 138 198 125 106 88 10 941 73.23
    คู่ค้าที่มีนัยสำคัญ 98 71 132 142 200 131 112 95 10 991 77.12
    Note : RATCH = บมจ. ราช กรุ๊ป (สำนักงานใหญ่) RGCO = บจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรี RCO = บจ. ราช โคเจนเนอเรชั่น
    RER = บจ. ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง NNEG = บจ. ผลิตไฟฟ้านวนคร BPC = บจ. เบิกไพร โคเจนเนอเรชั่น
    SKB = บจ. สงขลาไบโอ แมส HKP = บจ. หินกองเพาเวอร์ SLT = บจ. โซลาร์ต้า
  • การบริหารความเสี่ยงคู่ค้า

    บริษัทฯ จึงได้กำหนดแนวทางการบริหารความเสี่ยงคู่ค้าตามลักษณะของความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินงานของคู่ค้าในประเด็นด้าน ESG ควบคู่กับการกำกับดูแลให้คู่ค้าของบริษัทฯ ปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณคู่ค้า เพื่อป้องกันและลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาและผลกระทบ

    ประเด็นความเสี่ยงของคู่ค้า การบริหารความเสี่ยง ผลการดำเนินงานปี 2567
    ด้านการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการจัดการก๊าซเรือนกระจก
    การจัดการก๊าซเรือนกระจก สิ่งแวดล้อม และของเสีย
    • ตรวจสอบประวัติการละเมิดกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม
    • พิจารณาคู่ค้าที่มีระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม หรือมีการจัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจก
    • พิจารณาคู่ค้าที่มีการประกาศเป้าหมายด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก
    • ติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าและตรวจประเมินการดำเนินงานของคู่ค้า
    • กำหนดเกณฑ์การคัดกรองและประเมินความเสี่ยงคู่ค้าด้านสิ่งแวดล้อม
    • กำหนดเงื่อนไขด้านการจัดการ/ดูแลสิ่งแวดล้อมไว้ใน TOR หรือสัญญาจ้างงานครบทุกราย
    • กำหนดเกณฑ์การประเมินผลงานคู่ค้าด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งคู่ค้าจำนวน 1,285 ราย ผ่านเกณฑ์การประเมิน
    • ไม่มีคู่ค้าของบริษัทฯ ที่ละเมิดกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม
    ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
    อาชีวอนามัยและความปลอดภัยของแรงงาน
    • ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานของคู่ค้า
    • ตรวจสอบสถิติด้านความปลอดภัยในการทำงานของคู่ค้า
    • กำหนดให้มีการปฐมนิเทศ และประเมินความเสี่ยงของงานทุกครั้ง
    • กำหนดและจัดให้มีอุปกรณ์ความปลอดภัยสำหรับแรงงานในสัญญาจ้างตามลักษณะงานอย่างเหมาะสม
    • กำหนดให้คู่ค้าประกันความเสี่ยงแก่แรงงานที่ทำงานที่มีความเสี่ยงสูง
    • ติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าและตรวจประเมินการดำเนินงานของคู่ค้า
    • กำหนดเกณฑ์การคัดกรองและประเมินความเสี่ยงคู่ค้าด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
    • คู่ค้าที่ต้องปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยงสูงได้รับการอบรมก่อนเริ่มปฏิบัติงานทุกราย
    • ประเมินความเสี่ยงของงานและกำหนดมาตรการสำหรับงานแต่ละประเภทไว้อย่างชัดเจน
    • ไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับคู่ค้า/ผู้รับเหมาช่วงจนถึงขั้นเสียชีวิต
    ด้านสิทธิมนุษยชน
    การละเมิดสิทธิมนุษยชน (การใช้แรงงานเด็ก/แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย/การเลือกปฏิบัติ/การปฏิบัติต่อกลุ่มเปราะบาง)
    • ตรวจสอบประวัติการร้องเรียน/ข้อพิพาทด้านแรงงาน การใช้แรงงานผิดกฎหมาย/แรงงานเด็ก การบังคับใช้แรงงานของคู่ค้า
    • พิจารณาคู่ค้าที่มีการประกาศนโยบายหรือข้อกำหนดด้านสิทธิมนุษยชน
    • กำหนดให้แจ้งข้อมูลแรงงานที่จะเข้าทำงาน
    • กำหนดให้แสดงใบขึ้นทะเบียนกรณีเป็นแรงงานต่างด้าว
    • ติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าและตรวจประเมินการจัดการสภาพการทำงานของแรงงาน
    • กำหนดประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนเป็นเกณฑ์ในการคัดกรองและประเมินความเสี่ยงคู่ค้า
    • กำหนดเงื่อนไขด้านสิทธิมนุษยชนไว้ใน TOR หรือสัญญาจ้างงานครบทุกราย
    • กำหนดเกณฑ์การประเมินผลงานคู่ค้าด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งคู่ค้าจำนวน 1,285 รายผ่านเกณฑ์การประเมิน
    • คู่ค้าทุกรายปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานอย่างครบถ้วน โดยไม่มีการละเมิด
    • ไม่มีประเด็นการร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชน
    การจ้างงาน/การจ่ายผลตอบแทน/เงื่อนไขการทำงาน
    ด้านการต่อต้านทุจริตและคอร์รัปชัน และกำกับการดำเนินธุรกิจ
    การฮั้วราคา และความขัดแย้งทางผลประโยชน์
    • กำหนดไว้เป็นเรื่องต้องห้ามไว้ในจรรยาบรรณคู่ค้าที่จะต้องลงนามรับทราบและปฏิบัติตาม
    • ตรวจสอบข้อมูลและประวัติการดำเนินงานของคู่ค้าจากแหล่งต่าง ๆ
    • ตรวจสอบหนังสือรับรองทางการค้า และรายชื่อคณะกรรมการ/ผู้บริหาร
    • ปฏิเสธการจ้างคู่ค้าต้องห้าม
    • ติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าและตรวจประเมินการดำเนินงานของคู่ค้า
    • เชิญชวนคู่ค้าให้เข้าร่วมแสดงเจตนารมณ์ในแนวร่วมต่อต้านการคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย
    • ไม่มีการฮั้วราคา
    • ไม่มีการทำธุรกรรมกับคู่ค้าที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์
    • ส่งหนังสือเชิญชวนคู่ค้าของบริษัทฯ จำนวน 41 ราย เข้าร่วมแสดงเจตนารมณ์กับแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย โดยมีคู่ค้าตอบรับทราบการเชิญชวนแล้วจำนวน 14 ราย
    การละทิ้งงาน/การผิดนัดส่งมอบสินค้าและบริการ/สินค้าหรือบริการไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด
    • กำหนดบทปรับ และขึ้นบัญชีคู่ค้าต้องห้าม กรณีไม่เป็นไปตามที่กำหนด
    • กำหนดเงื่อนไขการเลิกจ้างหรือยกเลิกสัญญาไว้ในสัญญาและชี้แจงให้คู่ค้าทราบอย่างชัดเจน
    • กำหนดเงื่อนไข/หลักเกณฑ์การชำระเงินล่วงหน้า และเงื่อนไขการชำระเงินเป็นงวดตามความก้าวหน้าของงาน
    • กำหนดให้มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน กรณีงานมีมูลค่าสูง
    • ติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าและตรวจประเมินการดำเนินงานของคู่ค้า
    • มีคู่ค้าไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินผลงานจำนวน 27 ราย ซึ่งได้มีการแจ้งผลการประเมินพร้อมข้อเสนอแนะการปรับปรุงต่อคู่ค้าให้รับทราบแล้ว
    ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
    การป้องกันข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้บริโภค
    • พิจารณาคู่ค้าที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับงานที่มีความเสี่ยงสูง
    • ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และระบบการความปลอดภัยทางไซเบอร์ของคู่ค้า
    • นำระบบ One Trust มาใช้ในการประเมินความเสี่ยงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า
    • ตรวจสอบข้อมูล/ประวัติการถูกโจมตีทางไซเบอร์ และข้อร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล/ข้อมูลลูกค้า
    • กำหนดเป็นเงื่อนไขในสัญญาจ้างและตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อกำหนด
    • ติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าและตรวจประเมินการดำเนินงานของคู่ค้า
    • กำหนดประเด็นด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นเกณฑ์ในการคัดกรองและประเมินความเสี่ยงคู่ค้า
    • กำหนดเงื่อนไขด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ไว้ใน TOR หรือสัญญาจ้างงานครบทุกราย
    • ไม่มีเหตุการณ์การรั่วไหลของข้อมูลความลับ/ข้อมูลส่วนบุคคล ที่เกิดจากการดำเนินงานของคู่ค้า
    • ไม่มีประเด็นการร้องเรียนเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลความลับ/ข้อมูลส่วนบุคคล
    ข้อมูลเพิ่มเติม: จรรยาบรรณคู่ค้า
  • หลักการจัดซื้อ-จัดจ้างที่โปร่งใส

    ภายหลังการคัดกรองคู่ค้าด้วยเกณฑ์คุณสมบัติและการประเมินความเสี่ยงแล้ว คู่ค้าที่ผ่านกระบวนการดังกล่าวแล้วจะได้รับการพิจารณาคัดเลือกเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งบริษัทฯ วางกรอบการปฏิบัติไว้ในระเบียบบริษัทฯ ว่าด้วยการพัสดุ และคำสั่งบริษัทฯ เรื่อง วิธีปฏิบัติสำหรับการพัสดุ โดยกำหนดไว้ 4 วิธี ที่ผูกไว้กับมูลค่าการซื้อ/จ้าง และอำนาจการอนุมัติ ดังนี้

    วิธีจัดซื้อ-จัดจ้าง มูลค่าการซื้อ/จ้าง
    1. การตกลงราคา ไม่เกิน 1 แสนบาท
    2. การสอบราคา ไม่เกิน 5 ล้านบาท
    3. การประกวดราคา มากกว่า 5 ล้านบาท
    4. วิธีพิเศษ กำหนดให้กระทำได้ ในกรณี ดังต่อไปนี้
    • กรณีเร่งด่วน หรือกรณีใดกรณีหนึ่งตามที่ กรรมการผู้จัดการใหญ่เห็นสมควร
    • สินค้าและบริการที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจง/เป็นงานหรือบริการที่ต้องอาศัยความชำนาญพิเศษ
    • มูลค่าเกิน 1 แสนบาท

    หมายเหตุ: การแบ่งซื้อ-แบ่งจ้าง โดยลดวงเงินที่จะซื้อ-จ้างในครั้งเดียวกัน เพื่อให้อำนาจการสั่งซื้อ-จ้าง หรือวิธีการซื้อ-จ้างเปลี่ยนไปจะกระทำไม่ได้

    อำนาจการอนุมัติการซื้อ/จ้าง วงเงิน (บาท)
    ผู้อำนวยการฝ่าย ไม่เกิน 1 แสนบาท
    ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไม่เกิน 5 แสนบาท
    รองกกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไม่เกิน 1 ล้านบาท
    กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไม่เกิน 30 ล้านบาท
    คณะกรรมการบริษัท เกิน 30 ล้านบาท

    คู่ค้าที่ได้รับคัดเลือกการจ้างงานจะเข้าสู่กระบวนการทำสัญญา ซึ่งในสัญญาการซื้อ/จ้างงานจะมีเงื่อนไขระยะเวลาการชำระเงินที่ตกลงกันไว้อย่างชัดเจน คู่ค้าสามารถทราบระยะเวลาการชำระเงินได้ตั้งแต่เริ่มงาน โดยทั่วไปบริษัทฯ จะชำระเงินภายใน 30 วันนับจากวันที่บริษัทฯ ได้รับเอกสารขอรับชำระเงินจากคู่ค้า

การตรวจประเมินคู่ค้า

บริษัทฯ ได้ประยุกต์หลักการของ Together for Sustainability (TfS) ที่เป็นมาตรฐานสากล และข้อกำหนดที่ระบุไว้ในจรรยาบรรณคู่ค้ามาใช้ในการตรวจประเมินคู่ค้า ซึ่งครอบคลุม 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการบริหารจัดการ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสุขภาพและความปลอดภัย ด้านแรงงานและสิทธิมนุษยชน และด้านธรรมาภิบาล

บริษัทฯ ได้เริ่มตรวจประเมินคู่ค้าที่มีนัยสำคัญ (Significant supplier) โดยดำเนินการทั้งแบบตรวจประเมินจากเอกสาร (Desk Review) และการตรวจประเมิน ณ สถานที่ทำงานของคู่ค้า (On-site Assessment) ในปี 2567 บริษัทฯ ดำเนินการตรวจประเมินคู่ค้าจำนวน 148 ราย ซึ่งพบว่า คู่ค้าสามารถปฏิบัติได้ครบถ้วนตามประเด็นที่กำหนดทั้งหมด และมีประเด็นที่บริษัทฯ ขอให้ปรับปรุงเพิ่มเติมบางส่วนเพื่อให้การดำเนินงานดีขึ้นและตอบสนองต่อเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก การยกระดับการดำเนินงานด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย รวมถึงการดำเนินงานที่สอดคล้องกับจรรยาบรรณบริษัทฯ มากขึ้น เป็นต้น

หัวข้อและประเด็นการตรวจประเมินคู่ค้า
การบริหารจัดการ
  • อำนาจในการบริหารจัดการ
  • ระบบบริหารจัดการ นโยบายและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
  • การอบรม/พัฒนาศักยภาพพนักงาน
  • การบริหารจัดการพันธมิตรธุรกิจ คู่ค้า และผู้รับเหมา
สิ่งแวดล้อม
  • การปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม
  • ของเสีย
  • น้ำและน้ำเสีย
  • ดินและน้ำใต้ดิน
  • มลพิษอากาศและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • พลังงาน
  • การใช้ประโยชน์ที่ดินและความหลากหลายทางชีวภาพ
  • เสียงและกลิ่นรบกวน
  • สารอันตราย
  • ทรัพยากรและวัสดุอื่น ๆ
สุขภาพและความปลอดภัย
  • ความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์
  • ความปลอดภัยในการขนส่ง
  • ความปลอดภัยของกระบวนการและการเก็บรวบรวม
  • อาชีวอนามัยและความปลอดภัย
  • การเตรียมความพร้อมต่อเหตุฉุกเฉิน
  • การดูแลรักษาทางการแพทย์
  • การรักษาความปลอดภัย
แรงงานและสิทธิมนุษยชน
  • แรงงานเด็ก
  • การใช้แรงงานภาคบังคับ
  • ชั่วโมงการทำงาน
  • ค่าแรงขั้นต่ำ
  • อิสระในการสมาคม
  • การล่วงละเมิด
  • ชุมชนและสังคม
ธรรมาภิบาล
  • ความซื่อสัตย์ในการดำเนินธุรกิจ
  • การรักษาข้อมูลความลับและทรัพย์สินทางปัญญา
  • การแข่งขันที่ยุติธรรม
  • ขั้นตอนการรับเรื่องร้องเรียนและการลงโทษทางวินัย
การประเมินผลการปฏิบัติงานคู่ค้า

ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ปรับปรุงแบบประเมินผลงานคู่ค้า โดยเพิ่มประเด็นสิ่งแวดล้อมและสังคม นอกเหนือจากคุณภาพงานและการส่งมอบงาน หน่วยงานเจ้าของงานจะเป็นผู้ทำการประเมินผลงานของคู่ค้าหลังการส่งมอบงานแล้ว จากนั้นหน่วยงานจัดซื้อจะดำเนินการประเมินการปฏิบัติตามสัญญาและจรรยาบรรณคู่ค้าของบริษัทฯ ผลการประเมินจะแจ้งแก่คู่ค้าทราบ เพื่อการพัฒนาปรับปรุงต่อไป

หัวข้อและประเด็นการประเมินผลงานคู่ค้า ปี 2567
1. คุณภาพ/ราคาของสินค้าและบริการ
  • คุณภาพสินค้า/บริการเป็นไปตามข้อตกลง
  • การบรรจุหีบห่ออยู่ในสภาพเรียบร้อย/ไม่ชำรุด
  • ราคาเหมาะสม/คุ้มค่ากับคุณภาพสินค้า/บริการ
2. การส่งมอบสินค้าและบริการ
  • ส่งมอบสินค้า/งานบริการ ครบตามรายการและปริมาณที่ตกลงกันไว้
  • ส่งมอบสินค้า/งานบริการ ทันตามกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้
  • การดูแลสินค้า/บริการในระหว่างการส่งมอบ (พนักงาน/ยานพาหนะส่งของ)
3. การบริการ
  • การให้ความร่วมมือในการติดต่อประสานงาน
  • คุณภาพการให้บริการหลังการขาย
4. สิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติต่อแรงงาน
  • การเคารพและให้เกียรติในการทำงานร่วมกัน และการปฏิบัติ/ดูแลพนักงานของคู่ค้า
  • ไม่มีการจ้างงานแรงงานผิดกฎหมายและแรงงานเด็ก
  • พนักงานของคู่ค้าได้รับค่าจ้างและสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายเป็นอย่างน้อย
  • ระยะเวลาการทำงานของพนักงานตามกฎหมายเป็นอย่างน้อย
  • ไม่มีประวัติการล่วงละเมิด/เหตุการณ์/ข้อพิพาทเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติ/ปฏิบัติต่อแรงงานอย่างไม่เป็นธรรม
  • มีการปฏิบัติต่อแรงงานหญิงอย่างเหมาะสม เป็นธรรม
  • การแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม
  • การดูแลสภาพแวดล้อมการทำงานให้มีความปลอดภัย
  • ความสามารถในการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
5. สิ่งแวดล้อม
  • ความสามารถในการจัดการพลังงาน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • ความสามารถในการป้องกันมลพิษ และการจัดการของเสีย
  • ความสามารถในการจัดการวัตถุดิบอันตราย
  • ความสามารถในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ความสามารถ และการให้ความสำคัญในการจัดการด้านความหลากหลายทางชีวภาพ
  • ความสามารถ และการให้ความสำคัญในการไม่ตัดไม้ทำลายป่า
6. จรรยาบรรณทางธุรกิจ
  • การต่อต้านการคอร์รัปชัน และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
  • การให้ของขวัญ ของกำนัล และการเลี้ยงรับรองเป็นไปตามจรรยาบรรณคู่ค้า
  • การแข่งขันทางการค้าอย่างสุจริต
  • ความโปร่งใสในธุรกิจ
  • ความสามารถในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลความลับ ข้อมูลส่วนบุคคล และทรัพย์สินทางปัญญา
  • ความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์และการบริหารจัดการคุณภาพ
7. ด้านเอกสาร
  • เอกสารถูกต้องครบถ้วน และนำส่งให้บริษัทฯ ตรงตามกำหนดเวลา

ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ทำธุรกรรมกับคู่ค้ารวม 117 ราย และกิจการที่บริษัทฯ มีอำนาจบริหาร มีจำนวน 1,637 ราย (ร้อยละ 93.33) ผลการประเมินผลงานคู่ค้า มีคู่ค้าจำนวน 27 ราย (ร้อยละ 1.59) ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินของบริษัทฯ ซึ่งประเด็นสำคัญที่ควรปรับปรุง คือ ด้านเงื่อนไขการชำระเงินและหลักเกณฑ์ในการชำระเงิน โดยบริษัทฯ ได้แจ้งผลการประเมินและข้อเสนอแนะให้คู่ค้ารับทราบและดำเนินการพัฒนาปรับปรุงต่อไป ในกรณีที่คู่ค้าไม่ยอมรับข้อเสนอจะถูกบันทึกเป็นคู่ค้าต้องห้ามของบริษัทฯ ซึ่งคู่ค้าที่ผ่านเกณฑ์การประเมินจะนำมาขึ้นทะเบียนคู่ค้าของบริษัทฯ เพื่อใช้ในการพิจารณาจัดซื้อจัดจ้างในครั้งต่อไป

การประเมินผลงานคู่ค้าหลังส่งมอบงาน จำนวน (ราย)
RATCH RGCO RCO RER NNEG BPC RPE SKB HKP RAC SLT
คู่ค้าที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน 117 146 158 146 236 144 237 145 98 232 10
คู่ค้าที่ต้องปรับปรุงแก้ไขผลงาน 0 0 0 20 0 0 0 7 0 0 0
คู่ค้าต้องห้าม (Blacklist)/ถูกยกเลิกสัญญา 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0

หมายเหตุ: เป็นการประเมินผลงานคู่ค้าเฉพาะ คู่ค้าที่มีการจัดซื้อ-จัดจ้างและส่งมอบสินค้าหรือบริการภายในปี 2567

สรุปการจัดซื้อ-จัดจ้างปี 2567

กลุ่มคู่ค้าของบริษัทฯ และกิจการที่มีอำนาจบริหาร

กลุ่มคู่ค้าสำคัญของบริษัทฯ และกิจการที่บริษัทฯ มีอำนาจบริหาร มีจำนวน 10 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นคู่ค้าที่ให้บริการในธุรกิจผลิตไฟฟ้า สาธารณูปโภคพื้นฐาน และธุรกิจเกี่ยวเนื่องด้านการผลิตไฟฟ้า สรุปได้ดังนี้

กลุ่มคู่ค้า
จำแนกตามประเภทของสินค้า/บริการ
ขั้นตอนพัฒนาโครงการ ขั้นตอนก่อสร้างโครงการ ขั้นตอนดำเนินงาน ขั้นตอนเลิกกิจการ/รื้อถอน
  • ผู้ให้บริการด้านเทคนิคและการลงทุน
- - -
  • ผู้ให้บริการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม สังคม และสุขภาพ
- - -
  • ผู้ให้บริการคำปรึกษาด้านกฎหมายและเทคนิค
  • ผู้ให้บริการด้านประกันภัย
  • ผู้รับเหมาก่อสร้าง/EPC/ผู้ให้บริการด้านวิศวกรรม
- -
  • ผู้ให้บริการเดินเครื่องและบำรุงรักษา
- - -
  • ผู้ผลิตและจัดหาเทคโนโลยี เครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ ยา เวชภัณฑ์ และสารเคมี
-
  • ผู้จัดหาเชื้อเพลิงและทรัพยากร
- - -
  • ผู้รับกำจัดของเสีย
-
  • ผู้ให้บริการสนับสนุนการอำนวยความสะดวกในสถานที่ปฏิบัติงาน (การรักษาความปลอดภัย/ความสะอาด/บริการอื่น ๆ)
-

การจัดซื้อ-จัดจ้างในปี 2567 มีคู่ค้าที่เป็นคู่ค้ารายเดิมจำนวน 1,120 ราย และคู่ค้ารายใหม่จำนวน 634 ราย

บริษัท จำนวนคู่ค้าปี 2567 (ราย)
รายเดิม รายใหม่ รวม
RATCH 78 39 117
RGCO 94 60 154
RCO 107 51 158
RER 67 114 181
NNEG 170 66 236
BPC 105 39 144
RPE 140 97 237
SKB 120 32 152
HKP 0 98 98
RAC 204 28 232
SLT 35 10 45
รวม 1,120 634 1,754
การพัฒนาความร่วมมือกับคู่ค้าด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

การสร้างความตระหนัก

ในปี 2567 บริษัทฯ ได้มุ่งส่งเสริมให้คู่ค้าเข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่ายการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน เพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานด้านธรรมาภิบาลให้กับกลุ่มคู่ค้า ซึ่งบริษัทฯ โดยหน่วยงานจัดซื้อ-จัดจ้างร่วมกับฝ่ายตรวจสอบภายในได้ร่วมคัดกรองคู่ค้า SME ของบริษัทฯ เพื่อส่งเสริมกลุ่มคู่ค้าที่มีขนาดเล็กซึ่งอาจยังไม่มีการดำเนินงานด้านการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชันอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมประสานงานเชิญชวนคู่ค้าเข้าร่วมโครงการแนวร่วมการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน โดยปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ประสานงานเชิญชวนคู่ค้าจำนวน 41 ราย ซึ่งหากมีคู่ค้ารายใดที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ บริษัทฯ จะเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำต่อคู่ค้าในการกำหนดนโนยบายและแนวปฏิบัติด้านการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน เพื่อให้สามารถผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชันในอนาคตได้

การส่งเสริมด้านนวัตกรรมและองค์ความรู้

ปี 2566 บริษัท สงขลาไบโอ แมส จำกัด ร่วมกับคู่ค้า บริษัท ซีเอชเอ็ม เอ็นจิเนียริ่ง ซัพพลาย จำกัด ได้จัดทำโครงการปรับปรุงตะแกรงร่อนคัดแยกเศษรากไม้ยางพาราออกจากเศษดินในขั้นตอนการจัดเตรียมวัตถุดิบก่อนนำเข้ากระบวนการผลิตเพื่อลดการสูญเสียเศษรากไม้ซึ่งถือเป็นวัตถุดิบในการผลิตไฟฟ้า และลดต้นทุนการกำาจัดของเสียที่ไม่ใช้แล้ว ทั้งเศษดิน และเศษรากไม้ โดยตั้งเป้าหมายลดการสูญเสียเศษรากไม้ยางพาราจากร้อยละ 20 ให้เหลือเพียงร้อยละ 5-10

ความก้าวหน้าในปี 2567 โรงไฟฟ้าได้เริ่มใช้เครื่องมือตะแกรงร่อนเศษรากไม้ยางพาราเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่แล้วเป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งสามารถคัดแยกเศษรากไม้ยางพารากลับมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตได้ถึง 134,780 กิโลกรัม คิดเป็นร้อยละ 2.5 (หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ต่อปี) ของเศษรากไม้ยางพาราที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้เพิ่มเติม และช่วยลดปริมาณของเสีย ในกระบวนการผลิต รวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดวัสดุเหลือใช้ และลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการขนส่งและกำจัดของเสียด้วย โดยปัจจุบันโรงไฟฟ้าและคู่ค้าอยู่ระหว่างการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์คัดแยกให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถบรรลุตามเป้าหมายของโครงการได้ในอนาคต

การอบรมหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างด้าน ESG

ในปี 2567 หน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ ได้เข้ารับการอบรมออนไลน์หลักสูตรที่เกี่ยวกับ ESG จำนวน 2 หลักสูตร ได้แก่

  1. หลักสูตรการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน
  2. หลักสูตร ESG 101: พื้นฐานความรู้ด้านความยั่งยืน

หลักสูตรอบรมดังกล่าว จัดทำโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการพื้นฐานด้านความยั่งยืน หรือ ESG และการบริหารความเสี่ยงคู่ค้าด้าน ESG

การเสริมสร้างศักยภาพคู่ค้าในด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
ดาวน์โหลด