แนวทางการบริหารห่วงโซ่อุปทาน
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจไฟฟ้า ภาคระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานรวมไปถึงภาคธุรกิจการให้บริการต่าง ๆ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับผู้มีส่วนได้เสียที่หลากหลาย การให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการผู้มีส่วนได้เสียให้ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจนั้น จึงถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งที่จะส่งผลให้การดำเนินธุรกิจมุ่งไปสู่ความสำเร็จและส่งผลให้องค์กรมีการเติบโตและพัฒนาได้อย่างยั่งยืน
บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงและให้ความสำคัญกับการบริหารห่วงโซ่อุปทาน โดยได้กำหนดเป็นแนวปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียไว้ในจรรยาบรรณของบริษัทฯ ครอบคลุมตั้งแต่ผู้ถือหุ้น พนักงาน เจ้าหนี้ พันธมิตรธุรกิจ คู่ค้าหรือผู้จัดหาสินค้า คู่แข่งทางธุรกิจ ภาครัฐ ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม
บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญในการกำกับดูแลการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน โดยกำหนดหลักปฏิบัติในไว้จรรยาบรรณบริษัทฯ และคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบ และประธานกรรมการลงนามประกาศใช้จรรยาบรรณบริษัทฯ โดยมีคณะกรรมการธรรมาภิบาลและความยั่งยืนทำหน้าที่กำกับและติดตามการดำเนินงานการบริหารห่วงโซ่อุปทานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทำการจัดทำจรรยาบรรณคู่ค้า ที่เป็นแนวปฏิบัติในการบริหารจัดการคู่ค้าในห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงพัฒนาและปรับปรุงกระบวกนการคัดเลือกคู่ค้าโดยมีการนำประเด็นด้าน ESG เข้ามาประเมินความเสี่ยงของคู่ค้าด้วย โดยได้มีการรายงานผลการดำเนินการให้ฝ่ายบริหารและคณะกรรมการธรรมาภิบาลและความยั่งยืน และคณะกรรมการบริษัทฯ รับทราบอย่างสม่ำเสมอ และมีการเปิดเผยผลการดำเนินงานเป็นประจำทุกปี
ห่วงโซ่อุปทานตามกระบวนการดำเนินธุรกิจประกอบด้วย 4 กระบวนการหลัก คือ 1) การพัฒนาโครงการ 2) การก่อสร้างโครงการ 3) การผลิตและให้บริการ 4) การหยุดกิจการ โดยมีปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวแปรความสำเร็จทางธุรกิจ คือ พันธมิตรธุรกิจ คู่ค้า ลูกค้า ชุมชน และสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ จึงได้กำหนดแนวทางการบริหารผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มดังกล่าวไว้ดังนี้

| ข้อมูลเพิ่มเติม: | จรรยาบรรณบริษัทฯ |
เป้าหมายด้านการบริหารห่วงโซ่อุปทาน

แนวทางการบริหารจัดการ
บริษัทฯ ประกาศใช้จรรยาบรรณคู่ค้า (ปรับปรุงครั้งที่ 1) พ.ศ. 2566 ที่ได้ผนวกหลักการซัปพลายเชนยั่งยืน (Supply Chain Sustainability) ของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact: UNGC) เพื่อสร้างความมั่นใจว่าคู่ค้าของบริษัทฯ มีการปฏิบัติสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของบริษัทฯ เป็นไปตามหลักจริยธรรมทางธุรกิจ การดูแลสิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคม สนับสนุนความมุ่งหมายของบริษัทฯ ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคมที่เท่าเทียม ยืดหยุ่น และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมดียิ่งขึ้น ภายใต้จรรยาบรรณคู่ค้า ได้กำหนดให้มีการทบทวนเป็นประจำทุกปี ซึ่งในปี 2567 บริษัทฯได้ดำเนินการทบทวนแล้วพบว่า จรรยาบรรณคู่ค้าฉบับดังกล่าว ยังคงมีเนื้อหาที่สอดคล้องตามหลักปฏิบัติสากล และครอบคลุมประเด็นที่ผู้มีส่วนได้เสียในธุรกิจผลิตไฟฟ้าให้ความสำคัญครบถ้วน ดังนี้
| ประเด็นสำคัญที่ระบุในจรรยาบรรณคู่ค้า | |
|---|---|
| 1. สิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติต่อแรงงาน | |
| 1.1 การเคารพสิทธิมนุษยชน: เคารพในหลักการสิทธิมนุษยชนและจะต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติจากความแตกต่าง |
1.8 เสรีภาพในการสมาคมและสิทธิในการเจรจาต่อรอง: เคารพเสรีภาพของแรงงานในการจัดตั้ง รวมกลุ่ม และเข้าร่วมสหภาพแรงงาน และควรได้สิทธิการมีส่วนร่วมในการเจรจาต่อรอง |
| 1.2 การบังคับใช้แรงงาน: ห้ามมีการใช้แรงงานบังคับ แรงงานผูกมัด หรือแรงงานที่ไม่สมัครใจในรูปแบบใด ๆ และการค้ามนุษย์ |
1.9 การป้องกันผลกระทบต่อชุมชนและสังคม: ป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดกับชุมชนและสังคม รวมถึงส่งเสริม และสนับสนุนการจ้างแรงงานในท้องถิ่น |
| 1.3 แรงงานเด็ก: ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นและกฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องการจ้างงานตามอายุขั้นต่ำ |
1.10 การบริหารคู่ธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานของคู่ค้า: ให้ความสำคัญในการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายของคู่ค้าของตนหรือผู้รับเหมาช่วง หรือพันธมิตรทางธุรกิจของตน พร้อมประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น |
| 1.4 ค่าจ้างและสิทธิประโยชน์: ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน ในเรื่องการจ่ายค่าตอบแทน สวัสดิการและผลประโยชน์ เทียบเคียงกับมาตรฐานแรงงานประเภทเดียวกัน |
1.11 ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
|
| 1.5 ระยะเวลาในการทำงาน: ปฏิบัติตามข้อบังคับของกฎหมายแรงงานเกี่ยวกับชั่วโมงการทำงาน การทำงานล่วงเวลา วันหยุด และวันลาตามสิทธิที่พึงได้ |
|
| 1.6 การเลือกปฏิบัติและการล่วงละเมิด: ปฏิบัติต่อบุคคลทุกคนอย่างเท่าเทียม โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ และต้องไม่ให้มีการล่วงละเมิด |
|
| 1.7 การปฏิบัติต่อแรงงานหญิง: ให้ความคุ้มครองแรงงานหญิงไม่ให้ทำงานในลักษณะที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัย |
|
| 2. สิ่งแวดล้อม | |
| 2.1 การปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการใช้พลังงาน: ดำเนินการเชิงรุกเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง |
2.4 การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ: ใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด c]tนำหลักปฏิบัติที่ดีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร และลดการเกิดของเสีย |
| 2.2 การป้องกันมลพิษ และการจัดการของเสีย: ดำเนินมาตรการเพื่อลดมลภาวะ และการปล่อยสสารอันตรายสู่สิ่งแวดล้อม |
2.5 ความหลากหลายทางชีวภาพ: ปกป้องและรักษาระบบนิเวศ หลีกเลี่ยงกิจกรรมใด ๆ ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายหรือทำลายพื้นที่ชุ่มน้ำ ป่า หรือระบบนิเวศที่สำคัญ |
| 2.3 การจัดการวัสดุอันตราย และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์: มีมาตรการควบคุมการใช้วัตถุและสารเคมีอันตราย มีการจัดเก็บ จัดการ กำจัด หรือทำลายอย่างปลอดภัยตามข้อกำหนดของกฎหมาย |
2.6 ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า: ไม่ตัดไม้ทำลายป่า และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่นำไปสู่การทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า การทำให้พื้นที่เสื่อมโทรม ทั้งในการดำเนินงานของคู่ค้า และห่วงโซ่อุปทานของคู่ค้า |
| 3. จรรยาบรรณทางธุรกิจ | |
| 3.1 การต่อต้านคอร์รัปชัน และผลประโยชน์ทับซ้อน: ปฏิบัติตามกฎหมาย และข้อตกลงระหว่างประเทศทั้งหมดเกี่ยวกับการต่อต้านการคอร์รัปชัน |
3.5 การปกป้องคุ้มครองข้อมูลความลับ และข้อมูลส่วนบุคคล: ปกป้อง และรักษาข้อมูลทุกประเภทของบริษัทฯ ตามเงื่อนไขของสัญญา และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง |
| 3.2 การให้ของขวัญ ของกำนัล และการเลี้ยงรับรอง: ปฏิบัติตามนโยบายการให้ และรับของขวัญ ของกำนัล และของที่ระลึกของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด |
3.6 ความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์และการบริหารจัดการคุณภาพ: ให้ความมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ และบริการของคู่ค้านั้นได้ดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพที่เกี่ยวข้องทั้งหมด |
| 3.3 การต่อต้านการแข่งขันทางการค้า: ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับเกี่ยวกับการต่อต้านการผูกขาด และการแข่งขันอย่างเคร่งครัด |
3.7 การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา: เคารพ และหลีกเลี่ยงการละเมิดสิทธิบัตร ทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น และของบริษัทฯ |
| 3.4 ความโปร่งใสในธุรกิจ: ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินงาน และห่วงโซ่อุปทานของคู่ค้าให้แก่บริษัทฯ |
|
ทั้งนี้ คู่ค้าของบริษัทฯ ทุกรายจะต้องรับทราบและปฏิบัติตามจรรยาบรรณฉบับนี้ ซี่งถือเป็นเงื่อนไขหนึ่งในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ในปี 2567 มีคู่ค้าที่รับทราบจรรยาบรรณคู่ค้าจำนวน 271 ราย และไม่มีรายใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าดังกล่าว
| ข้อมูลเพิ่มเติม: | จรรยาบรรณคู่ค้า |
การพัฒนาระเบียบปฏิบัติการจัดซื้อ-จัดจ้างยั่งยืน (Sustainable Procurement Protocol)
บริษัทฯ ได้พัฒนาระเบียบปฏิบัติการจัดซื้อ-จัดจ้างยั่งยืน ที่ได้ผนวกประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลไว้เป็นหลักการสำคัญหนึ่งเพื่อเป็นกรอบการปฏิบัติงานในการคัดกรองคู่ค้า การประเมินคุณสมบัติคู่ค้า การตรวจประเมินคู่ค้า และการประเมินผลการปฏิบัติงานของคู่ค้า ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่า คู่ค้าของบริษัทฯ มีการดำเนินงานที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมถึงดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม และเคารพสิทธิมนุษยชน
เพื่อให้ระเบียบดังกล่าวนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ บริษัทฯ จึงได้ผนวกระเบียบปฏิบัติการจัดซื้อ-จัดจ้างยั่งยืน ไว้ในระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและสังคม (ESMS) ของบริษัทฯ โดยระบุเป็นวิธีปฏิบัติงาน (Procedure) ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องนำไปปฏิบัติตาม พร้อมกำหนดให้มีโครงสร้างการกำกับดูแลและการตรวจประเมินติดตามผลการปฏิบัติที่ชัดเจน
ขั้นตอนการจัดซื้อ-จัดจ้างยั่งยืน

ผลการดำเนินงานปี 2567
การคัดกรองคู่ค้า (Supplier Screening)
ในกระบวนการคัดกรองคู่ค้า จะดำเนินการ 2 ขั้นตอน คือ การประเมินคุณสมบัติคู่ค้า และการประเมินความเสี่ยงคู่ค้า
- การประเมินคุณสมบัติคู่ค้า เป็นขั้นตอนคัดกรองคู่ค้าเบื้องต้น โดยบริษัทฯ จะใช้แบบแสดงคุณสมบัติของคู่ค้า ที่ครอบคลุมประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลเป็นเครื่องมือในการพิจารณาคู่ค้าที่มีคุณสมบัติตามที่บริษัทฯประสงค์ คู่ค้าทุกรายจะต้องประเมินตนเองและนำส่งแบบแสดงคุณสมบัติให้บริษัทฯ
ประเด็นที่ใช้ตรวจสอบคุณสมบัติคู่ค้า 1. แหล่งที่ตั้งและรายได้ธุรกิจ 2. การรับรองที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริตและการติดสินบน 3. การรับรองที่เกี่ยวข้องกับการจัดการด้านสภาพภูมิอากาศ 4. การดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องตามกฎหมาย 5. การรับรองที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยอาชีวอนามัย 6. การรับหรือให้ของขวัญ 7. การจัดการสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ 8. นโยบายการต่อต้านคอร์รัปชัน 9. การรับรองที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน 10. การแข่งขันอย่างเป็นธรรม 11. การละเมิดสิทธิมนุษยชนและการเลือกปฏิบัติ 12. ผลประโยชน์ร่วมระหว่างผู้เสนอราคารายอื่น 13. การใช้แรงงานเด็ก 14. ประสบการณ์ในงานลักษณะเดียวกัน 15. การจัดการผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและชุมชน 16. การขึ้นบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานของราชการและบริษัทเอกชน 17.ความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม 18. การมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนทางการเมืองต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง 19. การรับรองที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางไซเบอร์และสารสนเทศ 20. ความสัมพันธ์ส่วนตัวใกล้ชิดกับผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ - การประเมินความเสี่ยงคู่ค้า
ในการประเมินความเสี่ยงคู่ค้า บริษัทฯ จะพิจารณาจากประเด็นที่มีความเกี่ยวข้องทางธุรกิจ (Business Relevance) ควบคู่กับประเด็นความเสี่ยงด้าน ESG เพื่อให้ทราบว่าเป็นกลุ่มคู่ค้าสำคัญ (Critical supplier) และ/หรือคู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูง (ESG high-risk supplier) รวมถึงกลุ่มคู่ค้าที่มีนัยสำคัญ (Significant supplier)

ประเภทคู่ค้า เกณฑ์ที่ใช้ประเมิน จำนวนคู่ค้า (ราย) ร้อยละ 1) คู่ค้าสำคัญ (Critical supplier) ประเด็นความเกี่ยวข้องทางธุรกิจ (Business relevance) ได้แก่ มูลค่าการซื้อ-จ้าง และการหาสินค้า-บริการนั้นทดแทนไม่ได้ 216 16.81 2) คู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูง (ESG high-risk supplier) - ที่ตั้งกิจการของคู่ค้า (Country-specific risks)
- ลักษณะธุรกิจหรืออุตสาหกรรมของคู่ค้า (Sector-specific risks)
- ประเภทสินค้าหรือบริการของคู่ค้า (Commodity-specific risks)
- การบริหารจัดการประเด็นสำคัญด้าน ESG ประกอบด้วย
- ประเด็นการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ/การลดก๊าซเรือนกระจก
- อาชีวอนามัย ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ของแรงงาน
- สิทธิมนุษยชน
- การต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน
- ความปลอดภัยทางไซเบอร์
941 73.23 สรุปรายการคู่ค้ามีนัยสำคัญ (Significant supplier) คู่ค้าที่มีนัยสำคัญ (Significant supplier) พิจารณาและรวบรวมคู่ค้าที่มีนัยสำคัญจากกลุ่มคู่ค้าสำคัญ (Critical supplier) และกลุ่มคู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูง (High-risk supplier) ที่อาจมีความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านการจัดซื้อ-จัดจ้าง และความเสี่ยงด้าน ESG ที่อาจสร้างผลกระทบต่อบริษัทฯ ได้ 991 77.12 หมายเหตุ: เกณฑ์ที่ใช้ในการคัดกรองคู่ค้ากำหนดเป็นคะแนน โดยแบ่งอันตรภาคชั้นของช่วงคะแนน 1-15 เป็น 3 ช่วงชั้นน้อยสุด = 1 คะแนน และสูงสุด = 15 คะแนน
ประเภทคู่ค้า จำนวนคู่ค้าจำแนกตามหน่วยธุรกิจ (ราย) RATCH RGCO RCO RER NNEG BPC SKB HKP SLT รวม % คู่ค้าสำคัญ 11 29 19 37 29 32 13 43 3 216 16.81 คู่ค้าความเสี่ยงสูง 96 53 127 138 198 125 106 88 10 941 73.23 คู่ค้าที่มีนัยสำคัญ 98 71 132 142 200 131 112 95 10 991 77.12 Note : RATCH = บมจ. ราช กรุ๊ป (สำนักงานใหญ่) RGCO = บจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรี RCO = บจ. ราช โคเจนเนอเรชั่น RER = บจ. ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง NNEG = บจ. ผลิตไฟฟ้านวนคร BPC = บจ. เบิกไพร โคเจนเนอเรชั่น SKB = บจ. สงขลาไบโอ แมส HKP = บจ. หินกองเพาเวอร์ SLT = บจ. โซลาร์ต้า - การบริหารความเสี่ยงคู่ค้า
บริษัทฯ จึงได้กำหนดแนวทางการบริหารความเสี่ยงคู่ค้าตามลักษณะของความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินงานของคู่ค้าในประเด็นด้าน ESG ควบคู่กับการกำกับดูแลให้คู่ค้าของบริษัทฯ ปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณคู่ค้า เพื่อป้องกันและลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาและผลกระทบ
ประเด็นความเสี่ยงของคู่ค้า การบริหารความเสี่ยง ผลการดำเนินงานปี 2567 ด้านการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการจัดการก๊าซเรือนกระจก การจัดการก๊าซเรือนกระจก สิ่งแวดล้อม และของเสีย - ตรวจสอบประวัติการละเมิดกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม
- พิจารณาคู่ค้าที่มีระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม หรือมีการจัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจก
- พิจารณาคู่ค้าที่มีการประกาศเป้าหมายด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก
- ติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าและตรวจประเมินการดำเนินงานของคู่ค้า
- กำหนดเกณฑ์การคัดกรองและประเมินความเสี่ยงคู่ค้าด้านสิ่งแวดล้อม
- กำหนดเงื่อนไขด้านการจัดการ/ดูแลสิ่งแวดล้อมไว้ใน TOR หรือสัญญาจ้างงานครบทุกราย
- กำหนดเกณฑ์การประเมินผลงานคู่ค้าด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งคู่ค้าจำนวน 1,285 ราย ผ่านเกณฑ์การประเมิน
- ไม่มีคู่ค้าของบริษัทฯ ที่ละเมิดกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม
ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย อาชีวอนามัยและความปลอดภัยของแรงงาน - ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานของคู่ค้า
- ตรวจสอบสถิติด้านความปลอดภัยในการทำงานของคู่ค้า
- กำหนดให้มีการปฐมนิเทศ และประเมินความเสี่ยงของงานทุกครั้ง
- กำหนดและจัดให้มีอุปกรณ์ความปลอดภัยสำหรับแรงงานในสัญญาจ้างตามลักษณะงานอย่างเหมาะสม
- กำหนดให้คู่ค้าประกันความเสี่ยงแก่แรงงานที่ทำงานที่มีความเสี่ยงสูง
- ติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าและตรวจประเมินการดำเนินงานของคู่ค้า
- กำหนดเกณฑ์การคัดกรองและประเมินความเสี่ยงคู่ค้าด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
- คู่ค้าที่ต้องปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยงสูงได้รับการอบรมก่อนเริ่มปฏิบัติงานทุกราย
- ประเมินความเสี่ยงของงานและกำหนดมาตรการสำหรับงานแต่ละประเภทไว้อย่างชัดเจน
- ไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับคู่ค้า/ผู้รับเหมาช่วงจนถึงขั้นเสียชีวิต
ด้านสิทธิมนุษยชน การละเมิดสิทธิมนุษยชน (การใช้แรงงานเด็ก/แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย/การเลือกปฏิบัติ/การปฏิบัติต่อกลุ่มเปราะบาง) - ตรวจสอบประวัติการร้องเรียน/ข้อพิพาทด้านแรงงาน การใช้แรงงานผิดกฎหมาย/แรงงานเด็ก การบังคับใช้แรงงานของคู่ค้า
- พิจารณาคู่ค้าที่มีการประกาศนโยบายหรือข้อกำหนดด้านสิทธิมนุษยชน
- กำหนดให้แจ้งข้อมูลแรงงานที่จะเข้าทำงาน
- กำหนดให้แสดงใบขึ้นทะเบียนกรณีเป็นแรงงานต่างด้าว
- ติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าและตรวจประเมินการจัดการสภาพการทำงานของแรงงาน
- กำหนดประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนเป็นเกณฑ์ในการคัดกรองและประเมินความเสี่ยงคู่ค้า
- กำหนดเงื่อนไขด้านสิทธิมนุษยชนไว้ใน TOR หรือสัญญาจ้างงานครบทุกราย
- กำหนดเกณฑ์การประเมินผลงานคู่ค้าด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งคู่ค้าจำนวน 1,285 รายผ่านเกณฑ์การประเมิน
- คู่ค้าทุกรายปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานอย่างครบถ้วน โดยไม่มีการละเมิด
- ไม่มีประเด็นการร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชน
การจ้างงาน/การจ่ายผลตอบแทน/เงื่อนไขการทำงาน ด้านการต่อต้านทุจริตและคอร์รัปชัน และกำกับการดำเนินธุรกิจ การฮั้วราคา และความขัดแย้งทางผลประโยชน์ - กำหนดไว้เป็นเรื่องต้องห้ามไว้ในจรรยาบรรณคู่ค้าที่จะต้องลงนามรับทราบและปฏิบัติตาม
- ตรวจสอบข้อมูลและประวัติการดำเนินงานของคู่ค้าจากแหล่งต่าง ๆ
- ตรวจสอบหนังสือรับรองทางการค้า และรายชื่อคณะกรรมการ/ผู้บริหาร
- ปฏิเสธการจ้างคู่ค้าต้องห้าม
- ติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าและตรวจประเมินการดำเนินงานของคู่ค้า
- เชิญชวนคู่ค้าให้เข้าร่วมแสดงเจตนารมณ์ในแนวร่วมต่อต้านการคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย
- ไม่มีการฮั้วราคา
- ไม่มีการทำธุรกรรมกับคู่ค้าที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์
- ส่งหนังสือเชิญชวนคู่ค้าของบริษัทฯ จำนวน 41 ราย เข้าร่วมแสดงเจตนารมณ์กับแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย โดยมีคู่ค้าตอบรับทราบการเชิญชวนแล้วจำนวน 14 ราย
การละทิ้งงาน/การผิดนัดส่งมอบสินค้าและบริการ/สินค้าหรือบริการไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด - กำหนดบทปรับ และขึ้นบัญชีคู่ค้าต้องห้าม กรณีไม่เป็นไปตามที่กำหนด
- กำหนดเงื่อนไขการเลิกจ้างหรือยกเลิกสัญญาไว้ในสัญญาและชี้แจงให้คู่ค้าทราบอย่างชัดเจน
- กำหนดเงื่อนไข/หลักเกณฑ์การชำระเงินล่วงหน้า และเงื่อนไขการชำระเงินเป็นงวดตามความก้าวหน้าของงาน
- กำหนดให้มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน กรณีงานมีมูลค่าสูง
- ติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าและตรวจประเมินการดำเนินงานของคู่ค้า
- มีคู่ค้าไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินผลงานจำนวน 27 ราย ซึ่งได้มีการแจ้งผลการประเมินพร้อมข้อเสนอแนะการปรับปรุงต่อคู่ค้าให้รับทราบแล้ว
ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ การป้องกันข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้บริโภค - พิจารณาคู่ค้าที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับงานที่มีความเสี่ยงสูง
- ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และระบบการความปลอดภัยทางไซเบอร์ของคู่ค้า
- นำระบบ One Trust มาใช้ในการประเมินความเสี่ยงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า
- ตรวจสอบข้อมูล/ประวัติการถูกโจมตีทางไซเบอร์ และข้อร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล/ข้อมูลลูกค้า
- กำหนดเป็นเงื่อนไขในสัญญาจ้างและตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อกำหนด
- ติดตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าและตรวจประเมินการดำเนินงานของคู่ค้า
- กำหนดประเด็นด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นเกณฑ์ในการคัดกรองและประเมินความเสี่ยงคู่ค้า
- กำหนดเงื่อนไขด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ไว้ใน TOR หรือสัญญาจ้างงานครบทุกราย
- ไม่มีเหตุการณ์การรั่วไหลของข้อมูลความลับ/ข้อมูลส่วนบุคคล ที่เกิดจากการดำเนินงานของคู่ค้า
- ไม่มีประเด็นการร้องเรียนเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลความลับ/ข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลเพิ่มเติม: จรรยาบรรณคู่ค้า - หลักการจัดซื้อ-จัดจ้างที่โปร่งใส
ภายหลังการคัดกรองคู่ค้าด้วยเกณฑ์คุณสมบัติและการประเมินความเสี่ยงแล้ว คู่ค้าที่ผ่านกระบวนการดังกล่าวแล้วจะได้รับการพิจารณาคัดเลือกเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งบริษัทฯ วางกรอบการปฏิบัติไว้ในระเบียบบริษัทฯ ว่าด้วยการพัสดุ และคำสั่งบริษัทฯ เรื่อง วิธีปฏิบัติสำหรับการพัสดุ โดยกำหนดไว้ 4 วิธี ที่ผูกไว้กับมูลค่าการซื้อ/จ้าง และอำนาจการอนุมัติ ดังนี้
วิธีจัดซื้อ-จัดจ้าง มูลค่าการซื้อ/จ้าง 1. การตกลงราคา ไม่เกิน 1 แสนบาท 2. การสอบราคา ไม่เกิน 5 ล้านบาท 3. การประกวดราคา มากกว่า 5 ล้านบาท 4. วิธีพิเศษ กำหนดให้กระทำได้ ในกรณี ดังต่อไปนี้ - กรณีเร่งด่วน หรือกรณีใดกรณีหนึ่งตามที่ กรรมการผู้จัดการใหญ่เห็นสมควร
- สินค้าและบริการที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจง/เป็นงานหรือบริการที่ต้องอาศัยความชำนาญพิเศษ
- มูลค่าเกิน 1 แสนบาท
หมายเหตุ: การแบ่งซื้อ-แบ่งจ้าง โดยลดวงเงินที่จะซื้อ-จ้างในครั้งเดียวกัน เพื่อให้อำนาจการสั่งซื้อ-จ้าง หรือวิธีการซื้อ-จ้างเปลี่ยนไปจะกระทำไม่ได้
อำนาจการอนุมัติการซื้อ/จ้าง วงเงิน (บาท) ผู้อำนวยการฝ่าย ไม่เกิน 1 แสนบาท ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไม่เกิน 5 แสนบาท รองกกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไม่เกิน 1 ล้านบาท กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไม่เกิน 30 ล้านบาท คณะกรรมการบริษัท เกิน 30 ล้านบาท คู่ค้าที่ได้รับคัดเลือกการจ้างงานจะเข้าสู่กระบวนการทำสัญญา ซึ่งในสัญญาการซื้อ/จ้างงานจะมีเงื่อนไขระยะเวลาการชำระเงินที่ตกลงกันไว้อย่างชัดเจน คู่ค้าสามารถทราบระยะเวลาการชำระเงินได้ตั้งแต่เริ่มงาน โดยทั่วไปบริษัทฯ จะชำระเงินภายใน 30 วันนับจากวันที่บริษัทฯ ได้รับเอกสารขอรับชำระเงินจากคู่ค้า
การตรวจประเมินคู่ค้า
บริษัทฯ ได้ประยุกต์หลักการของ Together for Sustainability (TfS) ที่เป็นมาตรฐานสากล และข้อกำหนดที่ระบุไว้ในจรรยาบรรณคู่ค้ามาใช้ในการตรวจประเมินคู่ค้า ซึ่งครอบคลุม 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการบริหารจัดการ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสุขภาพและความปลอดภัย ด้านแรงงานและสิทธิมนุษยชน และด้านธรรมาภิบาล
บริษัทฯ ได้เริ่มตรวจประเมินคู่ค้าที่มีนัยสำคัญ (Significant supplier) โดยดำเนินการทั้งแบบตรวจประเมินจากเอกสาร (Desk Review) และการตรวจประเมิน ณ สถานที่ทำงานของคู่ค้า (On-site Assessment) ในปี 2567 บริษัทฯ ดำเนินการตรวจประเมินคู่ค้าจำนวน 148 ราย ซึ่งพบว่า คู่ค้าสามารถปฏิบัติได้ครบถ้วนตามประเด็นที่กำหนดทั้งหมด และมีประเด็นที่บริษัทฯ ขอให้ปรับปรุงเพิ่มเติมบางส่วนเพื่อให้การดำเนินงานดีขึ้นและตอบสนองต่อเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก การยกระดับการดำเนินงานด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย รวมถึงการดำเนินงานที่สอดคล้องกับจรรยาบรรณบริษัทฯ มากขึ้น เป็นต้น
| หัวข้อและประเด็นการตรวจประเมินคู่ค้า | ||
|---|---|---|
| การบริหารจัดการ |
|
|
| สิ่งแวดล้อม |
|
|
| สุขภาพและความปลอดภัย |
|
|
| แรงงานและสิทธิมนุษยชน |
|
|
| ธรรมาภิบาล |
|
|
การประเมินผลการปฏิบัติงานคู่ค้า
ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ปรับปรุงแบบประเมินผลงานคู่ค้า โดยเพิ่มประเด็นสิ่งแวดล้อมและสังคม นอกเหนือจากคุณภาพงานและการส่งมอบงาน หน่วยงานเจ้าของงานจะเป็นผู้ทำการประเมินผลงานของคู่ค้าหลังการส่งมอบงานแล้ว จากนั้นหน่วยงานจัดซื้อจะดำเนินการประเมินการปฏิบัติตามสัญญาและจรรยาบรรณคู่ค้าของบริษัทฯ ผลการประเมินจะแจ้งแก่คู่ค้าทราบ เพื่อการพัฒนาปรับปรุงต่อไป
| หัวข้อและประเด็นการประเมินผลงานคู่ค้า ปี 2567 | |
|---|---|
| 1. คุณภาพ/ราคาของสินค้าและบริการ |
|
| 2. การส่งมอบสินค้าและบริการ |
|
| 3. การบริการ |
|
| 4. สิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติต่อแรงงาน |
|
| 5. สิ่งแวดล้อม |
|
| 6. จรรยาบรรณทางธุรกิจ |
|
| 7. ด้านเอกสาร |
|
ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ทำธุรกรรมกับคู่ค้ารวม 117 ราย และกิจการที่บริษัทฯ มีอำนาจบริหาร มีจำนวน 1,637 ราย (ร้อยละ 93.33) ผลการประเมินผลงานคู่ค้า มีคู่ค้าจำนวน 27 ราย (ร้อยละ 1.59) ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินของบริษัทฯ ซึ่งประเด็นสำคัญที่ควรปรับปรุง คือ ด้านเงื่อนไขการชำระเงินและหลักเกณฑ์ในการชำระเงิน โดยบริษัทฯ ได้แจ้งผลการประเมินและข้อเสนอแนะให้คู่ค้ารับทราบและดำเนินการพัฒนาปรับปรุงต่อไป ในกรณีที่คู่ค้าไม่ยอมรับข้อเสนอจะถูกบันทึกเป็นคู่ค้าต้องห้ามของบริษัทฯ ซึ่งคู่ค้าที่ผ่านเกณฑ์การประเมินจะนำมาขึ้นทะเบียนคู่ค้าของบริษัทฯ เพื่อใช้ในการพิจารณาจัดซื้อจัดจ้างในครั้งต่อไป
| การประเมินผลงานคู่ค้าหลังส่งมอบงาน | จำนวน (ราย) | ||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| RATCH | RGCO | RCO | RER | NNEG | BPC | RPE | SKB | HKP | RAC | SLT | |
| คู่ค้าที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน | 117 | 146 | 158 | 146 | 236 | 144 | 237 | 145 | 98 | 232 | 10 |
| คู่ค้าที่ต้องปรับปรุงแก้ไขผลงาน | 0 | 0 | 0 | 20 | 0 | 0 | 0 | 7 | 0 | 0 | 0 |
| คู่ค้าต้องห้าม (Blacklist)/ถูกยกเลิกสัญญา | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 |
หมายเหตุ: เป็นการประเมินผลงานคู่ค้าเฉพาะ คู่ค้าที่มีการจัดซื้อ-จัดจ้างและส่งมอบสินค้าหรือบริการภายในปี 2567
สรุปการจัดซื้อ-จัดจ้างปี 2567
กลุ่มคู่ค้าของบริษัทฯ และกิจการที่มีอำนาจบริหาร
กลุ่มคู่ค้าสำคัญของบริษัทฯ และกิจการที่บริษัทฯ มีอำนาจบริหาร มีจำนวน 10 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นคู่ค้าที่ให้บริการในธุรกิจผลิตไฟฟ้า สาธารณูปโภคพื้นฐาน และธุรกิจเกี่ยวเนื่องด้านการผลิตไฟฟ้า สรุปได้ดังนี้
| กลุ่มคู่ค้า จำแนกตามประเภทของสินค้า/บริการ |
ขั้นตอนพัฒนาโครงการ | ขั้นตอนก่อสร้างโครงการ | ขั้นตอนดำเนินงาน | ขั้นตอนเลิกกิจการ/รื้อถอน |
|---|---|---|---|---|
|
√ | - | - | - |
|
√ | - | - | - |
|
√ | √ | √ | √ |
|
√ | √ | √ | √ |
|
- | √ | - | √ |
|
- | - | √ | - |
|
√ | √ | √ | - |
|
- | - | √ | - |
|
- | √ | √ | √ |
|
- | √ | √ | √ |
การจัดซื้อ-จัดจ้างในปี 2567 มีคู่ค้าที่เป็นคู่ค้ารายเดิมจำนวน 1,120 ราย และคู่ค้ารายใหม่จำนวน 634 ราย
| บริษัท | จำนวนคู่ค้าปี 2567 (ราย) | ||
|---|---|---|---|
| รายเดิม | รายใหม่ | รวม | |
| RATCH | 78 | 39 | 117 |
| RGCO | 94 | 60 | 154 |
| RCO | 107 | 51 | 158 |
| RER | 67 | 114 | 181 |
| NNEG | 170 | 66 | 236 |
| BPC | 105 | 39 | 144 |
| RPE | 140 | 97 | 237 |
| SKB | 120 | 32 | 152 |
| HKP | 0 | 98 | 98 |
| RAC | 204 | 28 | 232 |
| SLT | 35 | 10 | 45 |
| รวม | 1,120 | 634 | 1,754 |
การพัฒนาความร่วมมือกับคู่ค้าด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
การสร้างความตระหนัก
ในปี 2567 บริษัทฯ ได้มุ่งส่งเสริมให้คู่ค้าเข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่ายการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน เพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานด้านธรรมาภิบาลให้กับกลุ่มคู่ค้า ซึ่งบริษัทฯ โดยหน่วยงานจัดซื้อ-จัดจ้างร่วมกับฝ่ายตรวจสอบภายในได้ร่วมคัดกรองคู่ค้า SME ของบริษัทฯ เพื่อส่งเสริมกลุ่มคู่ค้าที่มีขนาดเล็กซึ่งอาจยังไม่มีการดำเนินงานด้านการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชันอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมประสานงานเชิญชวนคู่ค้าเข้าร่วมโครงการแนวร่วมการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน โดยปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ประสานงานเชิญชวนคู่ค้าจำนวน 41 ราย ซึ่งหากมีคู่ค้ารายใดที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ บริษัทฯ จะเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำต่อคู่ค้าในการกำหนดนโนยบายและแนวปฏิบัติด้านการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน เพื่อให้สามารถผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชันในอนาคตได้
การส่งเสริมด้านนวัตกรรมและองค์ความรู้


ปี 2566 บริษัท สงขลาไบโอ แมส จำกัด ร่วมกับคู่ค้า บริษัท ซีเอชเอ็ม เอ็นจิเนียริ่ง ซัพพลาย จำกัด ได้จัดทำโครงการปรับปรุงตะแกรงร่อนคัดแยกเศษรากไม้ยางพาราออกจากเศษดินในขั้นตอนการจัดเตรียมวัตถุดิบก่อนนำเข้ากระบวนการผลิตเพื่อลดการสูญเสียเศษรากไม้ซึ่งถือเป็นวัตถุดิบในการผลิตไฟฟ้า และลดต้นทุนการกำาจัดของเสียที่ไม่ใช้แล้ว ทั้งเศษดิน และเศษรากไม้ โดยตั้งเป้าหมายลดการสูญเสียเศษรากไม้ยางพาราจากร้อยละ 20 ให้เหลือเพียงร้อยละ 5-10
ความก้าวหน้าในปี 2567 โรงไฟฟ้าได้เริ่มใช้เครื่องมือตะแกรงร่อนเศษรากไม้ยางพาราเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่แล้วเป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งสามารถคัดแยกเศษรากไม้ยางพารากลับมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตได้ถึง 134,780 กิโลกรัม คิดเป็นร้อยละ 2.5 (หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ต่อปี) ของเศษรากไม้ยางพาราที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้เพิ่มเติม และช่วยลดปริมาณของเสีย ในกระบวนการผลิต รวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดวัสดุเหลือใช้ และลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการขนส่งและกำจัดของเสียด้วย โดยปัจจุบันโรงไฟฟ้าและคู่ค้าอยู่ระหว่างการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์คัดแยกให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถบรรลุตามเป้าหมายของโครงการได้ในอนาคต
การอบรมหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างด้าน ESG
ในปี 2567 หน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ ได้เข้ารับการอบรมออนไลน์หลักสูตรที่เกี่ยวกับ ESG จำนวน 2 หลักสูตร ได้แก่
- หลักสูตรการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน
- หลักสูตร ESG 101: พื้นฐานความรู้ด้านความยั่งยืน
หลักสูตรอบรมดังกล่าว จัดทำโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการพื้นฐานด้านความยั่งยืน หรือ ESG และการบริหารความเสี่ยงคู่ค้าด้าน ESG






